ทำการตลาดออนไลน์ต้องรู้! Customer Experience (CX) คืออะไร?
Customer Experience (CX) คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไรในการทำการตลาด?
Customer Experience (CX) คืออะไร?
ในยุคที่ลูกค้ามีทางเลือกมากมายเพียงปลายนิ้วจิ้ม การแข่งขันของแบรนด์จึงไม่ได้วัดกันแค่ที่ราคาหรือคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังวัดกันที่ Customer Experience (CX) หรือ ประสบการณ์ของลูกค้า
CX หรือ Customer Experience หมายถึง ภาพรวมของประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับ จากการติดต่อกับแบรนด์ในทุกๆ ช่องทาง ทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์ ตั้งแต่ที่ลูกค้าเห็นโฆษณา และคลิกเข้ามาในเว็บไซต์ ไปจนถึงบริการหลังการขาย ความประทับใจในแต่ละ Touchpoint เหล่านี้ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ และความภักดีต่อแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้าอยากซื้อซ้ำ
✅ CX ที่ดี = ลูกค้ามีความรู้สึกดี + ซื้อซ้ำ + บอกต่อ
❌ CX ที่แย่ = ลูกค้าหนี + เสียชื่อเสียง + ยอดขายหาย
บริการหลังการขาย ที่แบรนด์มอบให้ลูกค้าทุกช่วง ล้วนมีผลต่อความรู้สึก ความประทับใจ และการตัดสินใจของลูกค้าทั้งสิ้น
Customer Experience (CX) กับ Google Ads
✅ ลูกค้าเริ่มต้นจากการ “ค้นหา” = มี Intent ชัดเจน
ลูกค้าที่คลิก Google Search Ads มักจะกำลังมองหาสินค้าหรือบริการอยู่แล้ว เพราะลูกค้าเหล่านี้ค้นหาสิ่งที่ต้องการ และเจแเข้ากับโฆษณาของคุณจึงคลิกเข้ามา ถ้าเราทำให้ประสบการณ์ของเขา “ดีตั้งแต่หน้าแรก” ที่ลูกค้าเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ของเรา (บางคนอาจจะเป็นเพจ Facebook) ก็จะเพิ่มโอกาสปิดการขายได้ทันที
🔍 การทำ CX บน Google Ads ต้องเน้น…
-
คำโฆษณาที่ตรงความต้องการของลูกค้า
เช่น หากลูกค้าค้นว่า “เครื่องฟอกอากาศในรถ” ควรแสดงข้อความโฆษณาเฉพาะเจาะจงไปที่เครื่องฟอกอากาศในรถ ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศในบ้าน -
Landing Page ต้องสอดคล้องกับคำค้น
ถ้าคีย์เวิร์ดพูดถึง “คอนโด กรุงเทพ” หน้าเว็บไซต์ควรแสดงไปที่คอนโดในกรุงเทพ ไม่ใช่คอนโดเชียงใหม่ -
โหลดเร็ว + ใช้งานง่ายบนมือถือ
ผู้ใช้ Google ส่วนใหญ่จะใช้มือถือในการค้นหา ถ้าเว็บโหลดช้า ลูกค้าอาจกดออกก่อนที่จะติดต่อกับแบรนด์ ซึ่งทำให้โอกาสที่จะปิดการขายได้ลดน้อยลง -
หน้าการติดต่อ (Conversion) หรือสั่งซื้อสินค้า ที่ลื่นไหล
การสั่งซื้อสินค้า หรือการกรอกฟอร์มควรใช้เวลาน้อย ไม่หลายขั้นตอน เพื่อให้ลูกค้าไม่รู้สึกวุ่นวาย
📈 สรุป:
CX ที่ดีบน Google Ads = เพิ่ม Conversion + ลดต้นทุนโฆษณาต่อยอดขาย (CPA)
Customer Experience (CX) กับ Facebook Ads
✅ ลูกค้าไม่ได้หาสินค้า แต่เจอโฆษณาระหว่างไถฟีด Facebook
ซึ่งจะต่างจาก Google ที่ลูกค้า “ตั้งใจค้นหา” ลูกค้าบน Facebook มักอยู่ในโหมดผ่อนคลาย การสร้าง CX จึงต้องนุ่มนวล และจับอารมณ์ของลูกค้าให้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณ เขาต้องการประสบการณ์รูปแบบไหน
🎯 การทำ CX บน Facebook Ads ต้องโฟกัสที่…
-
ความ Creative ที่ดึงดูด และตรงจริตกลุ่มเป้าหมาย
ภาพ/วิดีโอ และข้อความควรสร้างความรู้สึก “อยากรู้ อยากคลิก” เช่น การเล่าเรื่อง, รีวิว, หรือปัญหาที่ตรงใจลูกค้า -
UX จากโฆษณาเข้าสู่เว็บไซต์ต้องสมูท
หากดูแอดแล้วสนใจจนคลิกเข้าหน้าเว็บหรือ Inbox ไม่ควรมีจุดสะดุด เช่น ปุ่มสั่งซื้อเห็นชัด, แชทตอบไว, หรือมี FAQ ครบ -
ใช้ Facebook Pixel และ Conversion API ให้คุ้ม
เพื่อวัดพฤติกรรมลูกค้าได้แม่นยำ แล้วนำไปปรับ CX ให้ดียิ่งขึ้น เช่น ยิงแอด Retargeting ตามพฤติกรรมจริง -
บริการหลังการขาย = Touchpoint สำคัญของ CX
ลูกค้าบน Facebook คาดหวังการตอบกลับเร็วและเป็นมิตรจากแบรนด์ เช่น การดูแลหลัง Inbox การแจ้งเลขพัสดุ หรือการรีวิวหลังซื้อ
📈 สรุป:
CX ที่ดีบน Facebook Ads = เพิ่ม Engagement + ยอดขาย + ความเชื่อมั่นต่อแบรนด์
โฆษณาอาจช่วยให้คนรู้จักแบรนด์ แต่ CX คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้า “เลือกซื้อ” และ “กลับมาอีกครั้ง”
โฆษณาบนโลกออนไลน์แข่งขันกันทุกวินาที การสร้าง Customer Experience ที่ดี ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของทีมบริการหลังการขายอีกต่อไป แต่ต้องรวมเข้ากับทุกขั้นตอนตั้งแต่ลูกค้าพบเจอแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Google Ads ที่เน้นความตรงใจ หรือ Facebook Ads ที่เน้นความรู้สึก
แบรนด์ที่เข้าใจลูกค้าในทุกขั้นตอน จะเป็นแบรนด์ที่ชนะในระยะยาว
หากคุณต้องการทีมยิงแอดที่เข้าใจทั้ง Google, Facebook และประสบการณ์ของลูกค้าแบบครบวงจร
SMEJUMP พร้อมช่วยคุณวางแผนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งรับยิงแอด Google และ รับยิงแอด Facebook
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ