วิธีโปรโมทเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียเงิน

วิธีโปรโมทเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียเงิน ที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิกเข้ามาในเว็บไซต์ โดยไม่ต้องยิงแอดแบบเสียเงิน

3 วิธีโปรโมทเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียเงิน

การทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักและมีจำนวนทราฟฟิกเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียเงินเป็นเป้าหมายที่เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดออนไลน์หลายคนใฝ่ฝันถึง การมีทราฟฟิกเข้ามายังเว็บไซต์มากๆ ไม่เพียงแต่เพิ่มการรับรู้แบรนด์ แต่ยังมีโอกาสทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย ทราฟฟิกที่เข้ามาในเว็บไซต์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่ ทราฟฟิกจากโฆษณาที่ต้องจ่ายค่าโฆษณา และทราฟฟิกที่ได้จากกิจกรรมที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

จากประสบการณ์ของ SMEJUMP บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ เราขอนำเสนอบทความนี้เพื่อพูดถึง 3 วิธีโปรโมทเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งหากทำได้ดี จะช่วยสร้างการเข้าชมที่ยั่งยืนและเพิ่มโอกาสยอดขายโดยไม่มีต้นทุนด้านโฆษณา

1. สร้างเนื้อหาคุณภาพและทำ SEO

การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถดึงดูดทราฟฟิกแบบไม่เสียเงินเข้ามาในเว็บไซต์ของเราได้ เนื้อหาที่มีคุณภาพช่วยให้กลุ่มเป้าหมายได้รับข้อมูลที่มีคุณค่าและตอบโจทย์ปัญหาของพวกเขา นอกจากนี้ คอนเทนต์เหล่านี้ยังสามารถนำไปแชร์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, LINE OA หรือ LinkedIn เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและดึงดูดทราฟฟิกเพิ่มเติมนอกเหนือจากการแสดงผลบน Google Search

วิธีสร้างเนื้อหาคุณภาพ

– เลือกหัวข้อที่ตอบโจทย์: ศึกษาคำถามหรือปัญหาที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกำลังค้นหาในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคุณ เช่น ใช้เครื่องมืออย่าง Google Trends, Google Keyword Planner, Ubersuggest หรือ AnswerThePublic เพื่อค้นหาไอเดีย
– ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์: บทความของคุณควรให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ มีเนื้อหาละเอียด ชัดเจน และเข้าใจง่าย โดยอาจจะศึกษาจากคำถามที่ลูกค้าถามบ่อย หรือปัญหา (Pain Points) ของลูกค้า เพื่อนำเสนอวิธีแก้ปัญหา วิธีทำให้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น
– สร้างเนื้อหาหลากหลาย: การสร้างคอนเทนต์ไม่จำเป็นต้องโฟกัสที่บทความบนเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ในหลายรูปแบบให้เหมาะกับแพลตฟอร์ม หรือไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น บทความ, วิดีโอสั้น, ภาพ Infographics หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย

นอกจากนี้ ในทางเทคนิคถ้าเราสามารถแสดงเนื้อหาในหลายช่องทางและทำลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา เทคนิคนี้จะช่วยทำให้ SEO บนเว็บไซต์มีคุณภาพมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการแสดงผลในอันดับที่ดีขึ้นบนหน้า Google Search

ปรับแต่ง SEO ให้เนื้อหาเป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา

การทำ SEO (Search Engine Optimization) ช่วยเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับบน Google ซึ่งทำให้คนค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น

– ใช้ Keywords ที่เกี่ยวข้อง: ค้นหาและใช้คีย์เวิร์ดที่คนค้นหาบ่อยและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เช่น ใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner หรือ Ubersuggest เพื่อค้นหาคำที่เหมาะสม โดยเน้นไปที่คำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิรหรือสินค้า และมีจำนวนการค้นหาที่มากพอสมควร เพื่อให้คุ้มค่ากับการทำ SEO โดยอาจจะเลือกคีย์เวิร์ดในการทำ SEO ในจำนวนไม่มาก ในช่วงเริ่มต้น และค่อยๆขยายการทำ SEO ไปในคีย์เวิร์ดอื่นๆ
– ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์: ใช้ Title Tags, Meta Descriptions และ URL ที่กระชับและมีคำสำคัญ รวมถึงเพิ่ม Internal Links เชื่อมโยงบทความในเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้งาน สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ Google Search ใช้ในการจัดอันดับการแสดงผล

เพื่อความสะดวกในการทำ SEO คุณอาจจะใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้ถูกต้องและมีคุณภาพ โดยเฉพาะเว็บไซต์ในระบบ CMS อย่างเช่น WordPress จะมี Plugin หลายตัวที่สามารถช่วยในการจัดโครงสร้าง Tile Tags, Meta Description และ URL ให้สอดคล้องกับคีย์เวิร์ด ตัวอย่าง Plugin ที่เป็นที่นิยมใช้คือ SEO Yoast
– สร้าง Backlinks คุณภาพ: Google Search ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ โดยดูจากการที่เว็บไซต์ของคุณถูกอ้างถึงจากเว็บไซต์อื่นๆ โดยเว็บไซต์อื่นๆเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือ เช่น ถูกอ้างถึงจากเว็บไซต์สารานุกรม เว็บไซต์สถาบันการศึกษา หรือเว็บไซต์ยอดนิยมของประเทศ หากเว็บไซต์เหล่านี้เชื่อมลิงก์มาหาเว็บไซต์ของคุณ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่ดีบน Google Search

2. ใช้โซเชียลมีเดียมาสนับสนุน

โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและใช้งานได้ฟรีในการโปรโมตเว็บไซต์ของคุณ หลายคนอาจจะโฟกัสเพียงการทำ SEO แต่ในความเป็นจริง ทราฟฟิกแบบฟรีที่มาจากโซเชียลมีเดียนั้นสามารถสร้างการเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเช่นกัน โดยเฉพาะช่องทางอย่าง Facebook และ TikTok ที่สามารถดึงดูดทราฟฟิกได้อย่างมากมาย

ดังนั้นนักการตลาดออนไลน์จึงควรศึกษาวิธีการสร้างทราฟฟิกจากช่องทางเหล่านี้เพิ่มเติม การใช้คอนเทนต์ตามกระแสหรือเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในบางครั้งอาจสร้างทราฟฟิกได้มากกว่า SEO อีกด้วย ดังนั้นการประยุกต์ใช้ทั้ง SEO และการโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดียจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและเพิ่มทราฟฟิกเข้าเว็บไซต์ได้อย่างมหาศาล

เคล็ดลับการใช้โซเชียลมีเดีย

– แชร์เนื้อหาที่มีคุณค่า: โพสต์เนื้อหาที่น่าสนใจ ถ้าคุณมีช่องทางโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว การทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์เพียงครั้งเดียว ก็สามารถแชร์เนื้อหาไปในช่องทางต่างๆได้ โดยอาจจะปรับแต่งภาพหรือวิดีโอเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทาง เช่น บทความ, วิดีโอ หรือกราฟิกบน Facebook, Instagram, Twitter, TikTok และ LinkedIn พร้อมแนบลิงก์กลับมายังเว็บไซต์
– ปรับเนื้อหาให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม: เช่น บน Facebook อาจจะใช้ภาพในการโพสต์ แต่บน TikTok อาจจะทำเป็นวิดีโอสั้นหรือภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงเพลง เพื่อกระตุ้นให้คนสนใจและคลิกมาอ่านบทความเพิ่มเติม บน Instagram เน้นรูปภาพที่สวยงามและมีคุณภาพ ส่วนบน Twitter ควรเขียนข้อความที่กระชับและโดนใจ หรือแชร์บทความยาวใน LinkedIn เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย
– ใช้ Hashtags: เพิ่ม Hashtags ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มการมองเห็นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การใช้ Hashtags ในคำที่เป็นเทรนด์หรือกระแสก็มีส่วนช่วยให้คอนเทนต์เพิ่มการมองเห็นได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มที่มีการค้นหาตามกระแสอย่าง TikTok
– เชื่อมโยงกับกระแส: การทำคอนเทนต์ในสถานการณ์ที่กำลังเป็นกระแสจะต้องรวดเร็วและสอดคล้องกับกระแสในเวลาปัจจุบัน นักการตลาดออนไลน์ควรหยิบประเด็นที่กำลังเป็นที่นิยมมาสร้างคอนเทนต์ที่สอดแทรกข้อมูลธุรกิจอย่างแนบเนียนและนำเสนอในช่วงเวลาที่กระแสกำลังถูกพูดถึง เพื่อเพิ่มการมองเห็นและความน่าสนใจของคอนเทนต์

สร้างเนื้อหาให้โดดเด่นและน่าคลิก

ลองสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่าง เช่น การเล่าเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณ หรือการโพสต์คำถามที่กระตุ้นให้คนแสดงความคิดเห็น เทคนิคที่นักการตลาดนิยมใช้คือ การทำคอนเทนต์ที่ทำให้เกิดคำถาม ความประหลาดใจ สงสัย หรือเล่นกับความอยากรู้อยากเห็น เพื่อกระตุ้นให้คนคลิกลิงก์เข้ามาอ่านคอนเทนต์ วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสที่คนจะคลิกลิงก์กลับไปยังเว็บไซต์ของคุณ

3. การเข้าร่วมกลุ่มออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

การเข้าร่วมกลุ่มต่างๆ เช่น Facebook Group, กลุ่มใน LINE, หรือชุมชนในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการนำเสนอคอนเทนต์โดยไม่ต้องเสียเงิน อีกทั้งยังเป็นวิธีที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการโดยตรง การเข้าร่วมกลุ่มเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันความรู้ โปรโมตเนื้อหา และสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกกลุ่มที่เหมาะสม

สำรวจว่ากลุ่มนั้นมีสมาชิกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือไม่ เลือกเข้าร่วมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือความสนใจของคุณ เช่น กลุ่มรถยนต์, กลุ่มผู้ประกอบการ SME, หรือกลุ่มที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับสินค้า และบริการที่คุณนำเสนอ เช่น กลุ่มคนเล่นกล้อง Sony หรือ กลุ่มความรู้รีโนเวทบ้าน

มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์

ตอบคำถามหรือให้คำแนะนำที่มีประโยชน์แก่สมาชิกในกลุ่ม ไม่เน้นการขายสินค้า แต่นำเสนอแบบอ้อมๆตามความเหมาะสม
แชร์เนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณที่สามารถช่วยแก้ปัญหา หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น หากมีคำถามเกี่ยวกับการเลือกซื้อกล้องสำหรับคอนเทนต์ TikTok คุณอาจแบ่งปันบทความบนเว็บไซต์ของคุณที่อธิบายหัวข้อนี้อย่างละเอียด
– อย่าทำให้ดูเหมือนเป็นการขายหรือตั้งใจมาหาประโยชน์จากสมาชิกในกลุ่ม  เน้นการช่วยเหลือเพื่อนสมาชิก จะช่วยสร้างความไว้วางใจ และทำให้คนสนใจคอนเทนต์ในเว็บไซต์ของคุณ

สร้างตัวตนที่น่าเชื่อถือ

การเข้าร่วมกลุ่มออนไลน์ไม่ได้เพียงแค่โปรโมตเว็บไซต์เพื่อเพิ่มทราฟฟิก แต่ยังช่วยสร้างตัวคุณให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่คุณนำเสนอ ถ้าคุณนำเสนอคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อกลุ่ม คนในชุมชนจะเริ่มมองว่าคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ และหวังว่าจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต

บทสรุป: 3 วิธีโปรโมทเว็บไซต์โดยไม่ต้องเสียเงิน

การสร้างทราฟฟิกเข้ามาในเว็บไซต์ ควรใช้วิธีผสมผสานทั้งการทำทราฟฟิกแบบไม่เสียเงิน และแบบเสียเงินโดยการยิงแอด เพื่อให้เกิดจำนวนทราฟฟิกที่มากพอที่จะสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจไม่ควรพึ่งพาเพียงแค่การยิงแอดเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการพึ่งพาวิธีเดียว แต่ควรสร้างการเข้าชมที่ยั่งยืนผ่านการสร้างคอนเทนต์คุณภาพและการใช้ช่องทางอื่น ๆ ควบคู่กันไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในระยะยาว

การสร้างเนื้อหาคุณภาพ และทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการเข้าถึง และการมีส่วนร่วมในกลุ่มออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง ล้วนเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุนเงินเพิ่มเติม

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลบริษัท

บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

Email: contact@smejump.com

Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

LINE : @smejump

จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ