แนะนำ 3 รูปแบบ การยิงแอด 2025
แนะนำการยิงแอด 2025 มีอะไรกันบ้าง ไปดู
แนะนำการยิงแอด 2025 กับ 3 รูปแบบโฆษณาเพิ่มยอดขาย
บทความนี้ เราขอแนะนำการยิงแอด 2025 ด้วยโฆษณา 3 รูปแบบในการเพิ่มยอดขาย ในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเลือกใช้เครื่องมือโฆษณาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับ SMEJUMP ซึ่งเป็นเอเจนซี่โฆษณา รับทำโฆษณา Google Ads และ การยิงแอด Facebook เราได้คัดสรรรูปแบบโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการช่วยเพิ่มยอดขาย และยังสามารถไปต่อได้อย่างมั่นคงในปี 2025 โฆษณาที่สามารถวัดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้รวดเร็วเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในตลาดออนไลน์ บทความนี้เราจึงขอนำเสนอ 3 รูปแบบโฆษณาที่ทรงพลังและได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ Google Search Ads, Facebook Messages Ads และ Facebook Conversion Ads ซึ่งโฆษณาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถติดตามผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิผลสูงสุด
1. โฆษณา Google Search Ads: ตรงเป้าหมายด้วยคำค้นหา
พื้นที่บนหน้า Google Search เป็นที่ที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีโอกาสมาพบกัน โดยผู้ที่ต้องการซื้อตั้งใจพิมพ์คีย์เวิร์ดเพื่อหาข้อมูล ขณะที่ผู้ที่ต้องการขายก็ใช้โฆษณาในคีย์เวิร์ดนั้นเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมาย โฆษณาแบบ Search Ads บน Google Ads เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการทันที การใช้ Google Search Ads นั้นช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีเจตนาชัดเจนในการซื้อ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการนำเสนอสินค้าหรือบริการอย่างตรงจุด
ข้อดีของ Google Search Ads
1. ตรงกลุ่มเป้าหมาย: เนื่องจากการโฆษณาจะปรากฏตามคำค้นหาที่ลูกค้าพิมพ์ลงไป จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการหรือความสนใจใกล้เคียงกับสินค้าหรือบริการของเราได้ทันที เช่น คำค้นหา “ร้านซ่อมแอร์บ้านใกล้ฉัน” ผู้ที่พิมพ์คำนี้ ไม่จำเป็นคงไม่พิมพ์ข้อความแบบนี้ แสดงว่ามีความต้องการชัดเจนในเวลานี้
2. ควบคุมงบประมาณได้: Google Ads สามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก เพราะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องงบโฆษณาที่ต้องใช้ หากคุณมีงบโฆษณาน้อย ก็ยังสามารถทำโฆษณา Google Ads ได้เช่นเดียวกับองค์กรใหญ่ อีกทั้งมีระบบการคิดค่าโฆษณาแบบ **Cost Per Click (CPC)** หรือการจ่ายตามการคลิก ทำให้เราสามารถควบคุมงบประมาณในการโฆษณาได้อย่างยืดหยุ่น
3. วัดผลลัพธ์ได้ชัดเจน: มีระบบการวัดผลที่สามารถติดตามจำนวนคลิก จำนวนการแสดงผล (Impression) และข้อมูลสำคัญอย่างเช่น คอนเวอร์ชั่น ดังนั้นทำให้สามารถปรับกลยุทธ์โฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการทำให้ Search Ads มีประสิทธิภาพสูงสุด
– เลือกใช้คำหลักที่เกี่ยวข้อง และมีการแข่งขันไม่มาก: คำหลักที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการจะช่วยดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มในการซื้อสูง นอกจากนี้ควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดการทำงานแบบวลี (Phrase Match) เพื่อจำกัดการแสดงโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการอย่างแท้จริง ลดการแสดงโฆษณาในกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้อง และเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนโฆษณา
– เพิ่มคุณภาพของข้อความโฆษณา: ควรเขียนข้อความให้กระชับ ชัดเจน และตรงประเด็น โดยเน้นจุดเด่นของสินค้า รวมถึงใช้ Call-to-Action ที่ดึงดูดใจ เช่น “ซื้อเลย” หรือ “อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม” จากประสบการณ์ของเรา การใส่ข้อความกระตุ้นหรือ Call-to-Action ช่วยให้เปอร์เซ็นต์การคลิกที่โฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับโฆษณาที่ไม่มีข้อความกระตุ้น ซึ่งทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงกว่า
– ติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงคำหลัก: ใช้ Google Analytics และ Google Ads Keyword Planner ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อดูผลลัพธ์ของคำหลัก และปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุด
2. โฆษณา Facebook Messages Ads: การสื่อสารที่ใกล้ชิดเพื่อเพิ่มโอกาสการขาย
Facebook Messages Ads เป็นรูปแบบโฆษณาที่เน้นการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทันที กระตุ้นให้ลูกค้าติดต่อสอบถามผ่าน Facebook Messenger ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้า เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถพูดคุยโดยตรง สอบถามข้อมูลสินค้า หรือแม้แต่ขอคำแนะนำส่วนตัว ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีและทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจของแบรนด์
อีกทั้งโฆษณารูปแบบนี้ยังสามารถวัดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยดูจากข้อความที่สนทนากับลูกค้า ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถปรับปรุงการสื่อสารและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของ Facebook Messages Ads
1. สร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด: ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลผ่าน Messenger ได้โดยตรง ช่วยให้แบรนด์สร้างความเชื่อมั่นและการสื่อสารที่ดีกับลูกค้า การตอบคำถามที่ชัดเจนและให้ข้อมูลครบถ้วนในแบบมืออาชีพยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย
2. สะดวกในการให้ข้อมูลเฉพาะบุคคล: การตอบคำถามแบบส่วนตัวช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าอย่างชัดเจน และเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ
3. กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ: ลูกค้าที่สามารถพูดคุยกับผู้ให้บริการสามารถสอบถามข้อมูล ข้อกังวล และความสงสัยต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจซื้อ และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
วิธีการใช้ Messages Ads ให้ได้ผลลัพธ์ดี
– ตอบกลับอย่างรวดเร็ว: การตอบกลับลูกค้าในเวลาอันรวดเร็วจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจและเพิ่มความน่าเชื่อถือ
– เตรียมพร้อมสำหรับตอบคำถาม: ควรเตรียมข้อมูลสินค้าหรือบริการให้ครบถ้วนและชัดเจน เพื่อตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงประเด็น ข้อมูลในการตอบแชทไม่จำเป็นต้องเป็นการพิมพ์อย่างเดียว ข้อมูลในรูปแบบรูปภาพและวิดีโอก็สามารถช่วยให้การส่งข้อมูลกับลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
– ใช้ Chatbot เป็นตัวช่วย: การตั้งค่า Chatbot ช่วยตอบคำถามเบื้องต้นจะช่วยลดภาระให้กับทีมงานและทำให้การตอบคำถามลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเปิดโฆษณารันแบบ 24 ชม. การใช้ Chatbot จะช่วยให้การตอบสนองกับลูกค้าเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและรักษาการปฏิสัมพันธ์ได้อย่างต่อเนื่อง
3. Facebook Conversion Ads: เพิ่มยอดขายด้วยการติดตามผลลัพธ์การทำ Conversion
Facebook Conversion Ads เป็นโฆษณาที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำ Conversion เช่น การซื้อสินค้า การสมัครรับข่าวสาร หรือการกรอกฟอร์มต่าง ๆ โฆษณารูปแบบนี้จำเป็นต้องมีเว็บไซต์และสามารถวาง Tracking Code Pixel เพื่อใช้ในการวัดผลคอนเวอร์ชั่นที่ต้องการ
นอกจากนี้ โฆษณาแบบนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถวัดผลลัพธ์การตลาดได้อย่างชัดเจนว่ามีจำนวนผู้ที่กระทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มากน้อยเพียงใด ทำให้ธุรกิจสามารถติดตามและประเมินผลได้ว่าการโฆษณามีประสิทธิภาพในการทำยอดขายได้จริงหรือไม่
ข้อดีของ Facebook Conversion Ads
1. วัดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและจับต้องได้: Conversion Ads ช่วยให้เราติดตามผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการซื้อ หรือการกรอกข้อมูล ทำให้สามารถวัดผล ROI (Return On Investment) ได้
2. โอกาสในการเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น: เนื่องจาก Conversion Ads ระบบจะส่งโฆษณาไปในกลุ่มคนที่มีโอกาสสร้างคอนเวอร์ชั่น โดยดูจากพฤติกรรมการซื้อ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย
3. ปรับปรุงกลยุทธ์ได้ตามผลลัพธ์: เนื่องจากมีข้อมูลการติดตาม Conversion ที่ชัดเจน ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนแคมเปญตามข้อมูลที่ได้ เช่น ปรับปรุงข้อความโฆษณา หรือกลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถรู้ได้ว่า โฆษณาแบบไหน กลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหน ที่ทำให้เกิดคอนเวอร์ชั่น
วิธีการสร้าง Conversion Ads ที่มีประสิทธิภาพ
– ตั้งค่า Pixel อย่างถูกต้อง: การติดตั้ง Facebook Pixel บนเว็บไซต์จะช่วยให้เราสามารถติดตาม Conversion ได้อย่างแม่นยำ คุณอาจจะต้องมีความรู้ทางเทคนิคเพิ่มเติม ในการติดตั้ง Facebook Pixel เพราะต้องมีสิทธ์เข้าระบบหลังบ้านในเว็บไซต์ของคุณ
– เลือกวัตถุประสงค์ให้ตรงกับเป้าหมาย: ควรเลือกวัตถุประสงค์ที่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ เช่น เลือก “ซื้อ” หากต้องการเพิ่มยอดขาย หรือเลือก “สมัคร” หากต้องการให้ผู้ใช้ลงทะเบียน โดยการเลือกโฆษณารูปแบบคอนเวอร์ชั่น
– ทดสอบและปรับปรุงโฆษณา: ควรทำการทดสอบ (A/B Testing) เพื่อหาข้อความหรือภาพโฆษณาที่ดีที่สุดในการกระตุ้นการ Conversion
สรุป: แนะนำการยิงแอด 2025 ให้เหมาะสมกับธุรกิจ
การเลือกใช้โฆษณาทั้งสามประเภทนี้ให้เหมาะสมกับประเภทของธุรกิจหรือวัตถุประสงค์ทางการตลาดจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด หากธุรกิจต้องการเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็วและวัดผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม การใช้ Google Search Ads เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าและบริการโดยตรงจะเป็นทางเลือกที่ดี ขณะเดียวกัน Facebook Messages Ads จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด ส่วน Facebook Conversion Ads เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการติดตามผลลัพธ์การตลาดและเพิ่ม Conversion อย่างชัดเจน
โดยสรุป โฆษณาทั้งสามรูปแบบที่นำเสนอในบทความนี้เป็นรูปแบบโฆษณายอดนิยม และน่าจะยังสามารถทำผลลัพธ์ได้ดีในปี 2025 การใช้ทั้งสามประเภทโฆษณานี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มยอดขาย แต่ยังช่วยให้แบรนด์สามารถพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม โฆษณาทั้งสามรูปแบบนี้เน้นการเพิ่มยอดขายเป็นหลัก คุณอาจต้องพิจารณาทำโฆษณาในรูปแบบที่มุ่งเน้นสร้างการรับรู้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อเจาะหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สำหรับการขายในอนาคต หากเลือกใช้และปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลที่ได้รับจากการวัดผลลัพธ์ โอกาสในการประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายย่อมมีสูงขึ้นอย่างแน่นอน
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ