อัปเดต! ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT

ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT ค้นหาข้อมูลล่าสุดจากอินเตอร์เน็ต ด้วย Search the web

Open AI อัปเดต ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT – Search the Web: การค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์

เนื่องจาก SME Jump ได้ใช้ ChatGPT ในการทำงานด้าน Digital Marketing Agency เราจึงสร้างแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ ChatGPT เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานท่านอื่นๆ บทความนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบทความ ซึ่งเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT

ปัจจุบัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในแวดวงการค้นหาข้อมูล และในปลายปี 2024 นี้ OpenAI ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับ ChatGPT ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังในการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตในทันที ฟีเจอร์นี้เรียกว่า “Search the Web” ในเวอร์ชัน ChatGPT ที่ใช้โมเดล AI รุ่นล่าสุด เช่น GPT-40 และ Canvas ทำให้ ChatGPT สามารถดึงข้อมูลที่อัปเดตแบบเรียลไทม์ได้จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจสำหรับการค้นหาและการทำงานบนหน้าจอ ChatGPT โดยไม่ต้องออกไปหาข้อมูลภายนอกระบบ

แล้วฟีเจอร์ใหม่ Search the Web คืออะไร?

โดยฟีเจอร์ Search the Web เป็นการพัฒนาใหม่ใน ChatGPT ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลบนเว็บได้โดยตรงจากอินเทอร์เฟซของ ChatGPT คล้ายคลึงกับการค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิน Google และ Bing

แต่จุดเด่นสำคัญของฟีเจอร์นี้คือการทำงานร่วมกับโมเดล ChatGPT รุ่นใหม่ๆ ซึ่งสามารถประมวลผลคำตอบได้ทันที พร้อมข้อมูลอัปเดตล่าสุดจากแหล่งที่มาในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งช่วยอ้างอิงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด

โดยปกติ ChatGPT จะมี knowledge cut-off หรือข้อจำกัดของข้อมูลในโมเดล ซึ่งครอบคลุมถึงเดือนตุลาคม 2023 (อ้างอิงจากข้อมูลใน ChatGPT ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024) ดังนั้น หากผู้ใช้งานต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือข่าวสารล่าสุด เช่น สภาพอากาศ การรายงานข่าวสำคัญ หรือข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ การใช้ฟีเจอร์ Search the Web จะสามารถช่วยได้อย่างมาก โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องออกจากหน้าจอ ChatGPT สามารถเลือกให้ ChatGPT ไปค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตระหว่างการสนทนากับ ChatGPT

ความสามารถในการค้นหาเว็บแบบเรียลไทม์

ซึ่งฟีเจอร์ Search the Web ช่วยให้ ChatGPT มีความสามารถในการค้นหาข้อมูลที่กำลังเป็นกระแสและอัปเดตล่าสุด เหมาะกับการค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์จากหลายแหล่ง โดย ChatGPT ใช้ Bing เป็นแหล่งข้อมูลหลัก

นั่นหมายความว่าข้อมูลที่ได้จะมาจากเครือข่ายของ Microsoft แทนที่จะเป็น Google ทำให้ข้อมูลที่ได้รับมีความหลากหลายและรวดเร็วจาก Bing ที่มีเครือข่ายการเชื่อมโยงข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งในภาคธุรกิจ และข้อมูลที่เป็นทางการจากหลายภาคส่วน ดังนั้นข้อมูลที่ได้อาจจะมีความแตกต่างจากการค้นหาบน Google เล็กน้อย จากประสบการณ์การใช้งาน ข้อมูลจากการค้นหาไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ได้ความสะดวกในการใช้งานบน ChatGPT เพิ่มมากขึ้น

การใช้ ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT กับข้อมูลที่อัปเดตล่าสุด

เนื่องจาก ChatGPT ปกติมีข้อมูลที่จำกัดเฉพาะถึงเดือนตุลาคม 2023 การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันด้วยฟีเจอร์ Search the Web จะช่วยเสริมให้การทำงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถสอบถามข้อมูลที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือการอัปเดตข่าวสารที่อาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ยกตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลราคาหุ้นล่าสุด ผลการแข่งขันกีฬา ข่าวสารต่างประเทศที่เพิ่งรายงาน และแม้กระทั่งสภาพอากาศในวันนั้น โดย ChatGPT สามารถดึงข้อมูลจาก Bing และแสดงผลพร้อมแหล่งที่มาที่ชัดเจน

นอกจากนี้ การใช้งาน ChatGPT สำหรับการค้นหาข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น ยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการตรวจสอบข่าวสารด่วน หรือต้องการอ้างอิงข้อมูลที่ถูกต้องโดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บหรือค้นหาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานสามารถใช้ฟีเจอร์ Search the Web ในการเช็คข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ หลังจากที่ได้คำตอบจาก ChatGPT เพื่อทำให้มั่นใจว่า ChatGPT ให้คำตอบที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการนำข้อมูลจาก ChatGPT ไปใช้ในงานธุรกิจ หรือเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงต่างๆ

ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT

ประสบการณ์การใช้งานฟีเจอร์ใหม่ Search the Web

ในการใช้งานฟีเจอร์ Search the Web ระบบจะดึงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรอง และแหล่งที่น่าเชื่อถือจาก Bing ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความแตกต่างจากการค้นหาจาก Google แต่มีความแตกต่างกันไม่มาก เนื่องจากอัลกอริทึมที่ Bing ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์น่าจะมีความคล้ายกับอัลกอริทึมของทาง Google

ทั้งนี้แหล่งข้อมูลที่ ChatGPT อ้างอิงจะมาจากแหล่งที่ได้รับการยอมรับ เช่น เว็บไซต์ขององค์กรวิจัย หน่วยงานราชการ หรือแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างการใช้ที่สำคัญคือการตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ หรือแม้แต่การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ที่ได้รับความเชื่อถือ ซึ่ง ChatGPT จะดึงข้อมูลมาให้โดยทันที เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการข้อมูลอัปเดตที่ถูกต้องจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือในทันที

Generative Engine Optimization (GEO) แนวคิดใหม่สำหรับการเพิ่มโอกาสให้ข้อมูลปรากฏในการค้นหาผ่าน AI

เมื่อเราเห็นฟีเจอร์การแสดงผลเว็บไซต์บน ChatGPT ในมุมของการทำการตลาดออนไลน์ ถ้าเราสามารถแสดงข้อมูลเว็บไซต์ของเราบน ChatGPT ก็จะช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างทราฟฟิกเข้ามาในเว็บไซต์ของเรา คล้ายๆ กับกลยุทธ์ในการทำ SEO บนหน้าค้นหา Google

ดังนั้นหนึ่งในแนวคิดสำคัญที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Search the Web คือ Generative Engine Optimization (GEO) ซึ่งเป็นการทำ SEO ในรูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการค้นหาผ่าน AI การทำ GEO นั้นไม่เพียงแต่เน้นการเพิ่มอันดับบนเสิร์ชเอนจิน แต่ยังเน้นให้ข้อมูลของเว็บไซต์หรือธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ผ่าน AI อย่าง ChatGPT โดยที่ผู้ที่ต้องการทำจะต้องศึกษาอัลกอริทึมที่ ChatGPT ใช้ในการคัดเลือกและประมวลผลแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ ซึ่งยังไม่มีข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ชัดเจนคือ ChatGPT อ้างอิงข้อมูลจาก Bing ดังนั้น เราอาจจะยึดแนวทางการทำ SEO บน Bing ในการพัฒนาเว็บไซต์และการสร้างคอนเทนต์ที่ดีและน่าเชื่อถือ จะเพิ่มโอกาสที่ข้อมูลของคุณจะได้รับการอ้างอิงผ่าน ChatGPT

นอกจากนี้ GEO ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้กับแบรนด์หรือธุรกิจในการเข้าถึงผู้ใช้งานที่กำลังค้นหาข้อมูลเฉพาะผ่าน AI อย่าง ChatGPT ซึ่งเป็นเทรนด์การใช้งานหาข้อมูลแบบใหม่ ที่คาดกันว่าจะมาแทนการค้นหาข้อมูลบน Google ซึ่งผลลัพธ์การค้นหาบน ChatGPT ได้รับความน่าเชื่อถือของข้อมูลในระดับสูง

เนื่องจากยังไม่มีโฆษณาเข้ามาเกี่ยวข้อง และอัลกอริทึมการแสดงข้อมูลยังให้ความสำคัญกับข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออีกด้วย รวมถึงข้อมูลจากรีวิวลูกค้า และความนิยมของข้อมูลบนโลกออนไลน์

การใช้ ChatGPT กับ Search the Web: เหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลอัปเดต และผู้เขียนบทความ

ฟีเจอร์นี้เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการข้อมูลอัปเดตทันทีโดยไม่ต้องสลับไปที่ Google หรือแอปพลิเคชันอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้สะดวก เช่น การค้นหาข่าวล่าสุด การเช็คราคาผลิตภัณฑ์ การอัปเดตสภาพอากาศ หรือแม้กระทั่งการตรวจสอบข่าวในวงการต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

สำหรับผู้ใช้งานที่เน้นการเขียนบทความ สรุปบทความ หรือการแปลภาษา ChatGPT ในโหมดปกติก็ยังคงให้คำตอบที่ถูกต้องและรวดเร็วอยู่ แต่หากต้องการเนื้อหาที่เป็นปัจจุบันเสริมเข้าไปกับบทความที่คุณเขียน การใช้ Search the Web จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมความสามารถในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถอ้างอิงแหล่งข้อมูลได้จากลิงก์เว็บไซต์

ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT

คำแนะนำการใช้งานฟีเจอร์ Search the Web สำหรับนักการตลาด

ฟีเจอร์ Search the Web นับว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักการตลาดออนไลน์ที่ต้องการข้อมูลล่าสุดและต้องการให้แบรนด์ของตนเองปรากฏใน ChatGPT มากขึ้น สำหรับนักการตลาด การสร้างคอนเทนต์ให้มีความน่าเชื่อถือ และการอ้างอิงสถาบัน หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้รับการยอมรับ จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ที่ทำไปแสดงบน Search the Web ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์เป็นที่ลูกค้ารู้จักได้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นนักการตลาดออนไลน์ควรให้ความสำคัญกับเรื่อง GEO แม้ว่าในปัจจุบันยังมีข้อมูลไม่มาก และยังไม่ชัดเจน แต่ควรจะอัปเดตติดตามข้อมูลเกี่ยวกับ GEO อย่างสม่ำเสมอ เพื่อค้นหาวิธีในการนำเสนอคอนเทนต์ของแบรนด์บน ChatGPT

ปัจจัยสำคัญในการค้นหาข้อมูลของ ChatGPT

โดย ChatGPT จะพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มา การรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ รีวิวจากผู้ใช้งานจริง และการวิเคราะห์จาก Social Sentiment ซึ่งเป็นการตรวจสอบกระแสตอบรับของข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีความแตกต่างจากการทำ SEO ที่เน้นการใช้คีย์เวิร์ดและคอนเทนต์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ค้นหา

ChatGPT มีวิธีแสดงข้อมูลที่แตกต่างจากเสิร์ชเอนจิน ระบบจะมุ่งเน้นให้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานและมีคุณภาพมากที่สุด โดยการเลือกแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบจากความเห็นของผู้ใช้งานจริง ทำให้ข้อมูลที่แสดงตรงกับความต้องการในการค้นหามากกว่า

สรุป: ฟีเจอร์ใหม่ ChatGPT

ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เรียกว่า Search the Web ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลอัปเดตได้ในทันทีโดยไม่ต้องสลับหน้าต่างหรือเปิดหลายแท็บในการค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ฟีเจอร์นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักการตลาดและผู้ที่ต้องการข้อมูลที่ทันสมัย เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลบริษัท

บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

Email: contact@smejump.com

Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

LINE : @smejump

จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ