สัญญาณเตือน! ถึงเวลาเปลี่ยนเอเจนซี่การตลาดออนไลน์

สัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาเปลี่ยนเอเจนซี่การตลาดออนไลน์

สัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาเปลี่ยนเอเจนซี่การตลาดออนไลน์

ในยุคที่การตลาดออนไลน์เป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันธุรกิจ หลายบริษัทเลือกพึ่งพาเอเจนซี่เพื่อบริหารจัดการแคมเปญโฆษณา การพึ่งพาเอเจนซี่ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคุณสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่โฟกัสไปที่ธุรกิจหลักของคุณ โดยเอเจนซี่ทำงานเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของทีมการตลาด แต่คุณต้องมีการประเมินการทำงานให้บริษัทเอเจนซี่ที่คุณจ้างอยู่เป็นระยะ หากคุณรู้สึกว่าเงินที่ลงทุนไม่คุ้มค่า หรือผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาจถึงเวลาที่ต้องประเมินใหม่ว่าควรเปลี่ยนเอเจนซี่หรือไม่ บทความนี้จะพาคุณสำรวจ 7 สัญญาณสำคัญที่ชี้ว่าคุณควรเปลี่ยนบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้ทีมงานสนับสนุนการทำการตลาดออนไลน์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาเปลี่ยนเอเจนซี่การตลาดออนไลน์

1. เอเจนซี่ไม่ค่อยติดต่อกลับมา

การสื่อสารระหว่างทีมการตลาดของคุณและทีมงานเอเจนซี่เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ หากคุณต้องคอยติดตามงานเองอยู่เสมอ อาจแปลว่าเอเจนซี่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจของคุณมากพอ ในทางกลับกัน หากเอเจนซี่ไม่ค่อยติดต่อกลับมา ก็จะทำให้ไม่ได้รับข้อมูลที่จำเป็นจากทีมการตลาดของคุณเช่นกัน การทำการตลาดออนไลน์เป็นกิจกรรมที่ต้องมีการอัปเดต ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เช่น การยิงแอดที่ไม่มีผล ก็ควรปรับกลุ่มเป้าหมาย ปรับรูปแบบโฆษณา ดังนั้นการไม่ค่อยสื่อสารจากเอเจนซี่ จะมีผลกระทบต่อแคมเปญโฆษณาที่กำลังรันอยู่

2. ข้อมูลไม่ชัดเจนเมื่อถามคำถามสำคัญ

เมื่อคุณสอบถามเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้ ผลลัพธ์ที่ได้ หรือกระบวนการทำงานของเอเจนซี่ หากได้รับคำตอบที่กำกวม บ่ายเบี่ยง หรือไม่เต็มใจที่จะอธิบาย สิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณว่าเอเจนซี่ไม่ได้โปร่งใสในกระบวนการทำงาน บางเอเจนซี่ที่ไม่โปร่งใส อาจไม่ได้ใช้งบโฆษณาตามที่ตกลงกันเอาไว้ ดังนั้นการรายงานผลลัพธ์อาจไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด ความชัดเจนและความเข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้าและเอเจนซี่เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของการตลาดออนไลน์

ข้อสังเกตเพิ่มเติม: คุณควรเลือกเอเจนซี่ที่สามารถแสดงข้อมูลที่ชัดเจน โปร่งใส มากกว่าเลือกเอเจนซี่ที่อัตราค่าบริการ เพราะคุณอาจจะจ่ายแพงกว่า ถ้าเอเจนซี่รายนั้นไม่ได้ใช้งบโฆษณาตามที่กำหนด

3. ไม่มีรายงานแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจน

รายงานแสดงผลลัพธ์ของการทำการตลาดออนไลน์ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการปรับปรุงและแก้ไขแคมเปญโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ เอเจนซี่ที่ดีควรมีรายงานผลลัพธ์ที่อ่านง่าย และนำเสนอข้อมูลที่สำคัญ เช่น จำนวนคลิก อัตราการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จำนวน Conversion และต้นทุนต่อ Conversion ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นผลตอบแทนจากการทำโฆษณา (ROI)  หากคุณไม่ได้รับรายงานเหล่านี้ หรือได้รับช้าเกินไป อาจส่งผลให้คุณเสียโอกาสในการปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

4. ไม่มีคำแนะนำในการพัฒนา

การทำงานกับเอเจนซี่ไม่ควรเป็นเพียงการสั่งงานแล้วทำตามคำสั่งเท่านั้น แต่เอเจนซี่ควรทำตัวเสมือนเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยแนะนำไอเดียใหม่ๆ และกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ โดยเฉพาะในกรณีของธุรกิจ SME ที่อาจไม่มีทีมการตลาดออนไลน์เฉพาะ การที่เอเจนซี่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้เป็นสิ่งที่สำคัญ และมีประโยชน์มาก หากเอเจนซี่ของคุณทำงานแบบรอคำสั่งเพียงอย่างเดียว อาจไม่เหมาะสมกับการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว

5. ขาดความโปร่งใสในการทำงาน

ความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญของความน่าเชื่อถือ เอเจนซี่ที่ดีควรเปิดเผยข้อมูลและกระบวนการทำงานอย่างชัดเจน โดยเฉพาะงบโฆษณาที่คุณจ่ายให้กับเอเจนซี่ ซึ่งโดยปกติแล้วเอเจนซี่ที่ทำงานโปร่งใสจะแยกค่าโฆษณาและค่าบริการให้คุณเห็นอย่างชัดเจน และจะรายงานงบโฆษณาที่ใช้ไปเป็นระยะ เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบได้ เช่น งบโฆษณาที่ใช้ ค่าโฆษณาต่อคลิก แผนการทำงาน หรือกลุ่มเป้าหมายที่เลือก หากคุณรู้สึกว่าถูกปิดบังหรือไม่สามารถตรวจสอบการทำงานได้ นี่เป็นสัญญาณที่ควรพิจารณาเปลี่ยนเอเจนซี่ทันที

6. ทำงานช้าและเกิดข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง

การตลาดออนไลน์เป็นเรื่องของความเร็วและความแม่นยำ หากเอเจนซี่ที่คุณใช้อยู่ทำงานล่าช้า เขียนคอนเทนต์ที่มีตัวสะกดผิด หรือยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าบ่อยครั้ง นี่อาจสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่ต่ำของทีมงาน การผิดพลาดบ่อย ความผิดพลาดเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจคุณได้ นอกจากนี้เรื่องข้อผิดพลาดแล้ว การทำงานที่ช้าและไม่ทันกับความต้องการของคุณ ก็เป็นสัญญาณที่คุณต้องประเมินว่าเอเจนซี่นี้ยังเหมาะสมอยู่หรือไม่

7. ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

การจ้างบริษัทเอเจนซี่ก็คือการลงทุนรูปแบบหนึ่ง สุดท้ายคุณจำเป็นต้องประเมินว่า ผลลัพธ์ที่คุณจ้างเอเจนซี่คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ หากคุณจ่ายเงินจำนวนมากให้กับเอเจนซี่แต่ไม่ได้รับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า เช่น ยอดขายไม่เพิ่มขึ้น หรือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ นี่อาจเป็นสัญญาณสำคัญที่บอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนเอเจนซี่เพื่อหาทีมงานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีกว่า

วิธีตรวจสอบความโปร่งใสของเอเจนซี่
  • ตรวจการใช้งบโฆษณา: ขอรายงานการใช้งบโฆษณาอย่างละเอียด เอเจนซี่ที่โปร่งใสจะสามารถแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณได้อย่างชัดเจน เช่น screen capture หน้าจอของแคมเปญที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับงบโฆษณาที่ใช้ หรือ รายงานผลลัพธ์การทำโฆษณาซึ่งแสดง จำนวนผลลัพธ์ และต้นทุนต่อผลลัพธ์ ซึ่งจะเห็นความสอดคล้องกับงบโฆษณาที่ใช้ไป
  • ตรวจสอบกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: ขอให้เอเจนซี่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่เลือกใช้สำหรับแคมเปญ ตรวจสอบว่ากลุ่มเป้าหมายสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าของคุณหรือไม่ และอาจจะขอเอเจนซี่ทำงานร่วมกับทีมการตลาดของคุณ เพื่อวิเคราะห์ Customer Persona ร่วมกัน โดยอ้างอิงกับข้อมูลฐานลูกค้าของคุณ
  • ตรวจสอบรายงานผลลัพธ์: เอเจนซี่ที่ดีจะมีรายงานผลลัพธ์ที่โปร่งใส เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนคลิก อัตราการเข้าถึง และอาจจะขอ screen capture ตัวอย่างโฆษณาที่ไปแสดงจริงในตำแหน่งต่างๆที่ลงโฆษณา เพื่อยืนยันว่าโฆษณาได้ไปแสดงในแพลตฟอร์มที่กำหนด
  • การสื่อสารและติดตามงาน: ขอความร่วมมือกับผู้บริหารของทางเอเจนซี่ เพื่อกำหนดให้มีการสื่อสารและรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ และอาจจะกำหนดหัวข้อ และเวลาที่ชัดเจนในการสื่อสารและติดตามงาน

จะเลือกเอเจนซี่ใหม่อย่างไร?

แนวทางการเลือกเอเจนซี่ใหม่เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจและความต้องการของคุณ ต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้:

– ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา ลูกค้าที่เคยร่วมงาน และการรับรองต่างๆจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่น Premier Google Partner
– การสื่อสาร: เอเจนซี่ที่ดีต้องสื่อสารอย่างชัดเจน พร้อมรับฟังความต้องการของคุณ และสอบถามเกี่ยวกับผลลัพธ์จากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมาพัฒนาแคมเปญโฆษณาที่รันอยู่
– ความโปร่งใส: สามารถตรวจสอบการใช้งบโฆษณา และแผนการทำงานมีความชัดเจนหรือไม่
– ความน่าเชื่อถือ: เป็นรูปแบบบริษัท มีการออกเอกสารต่างๆอย่างถูกต้อง และมีรีวิวหรือคำแนะนำที่ดีจากลูกค้าคนอื่นๆ

สรุป: สัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาเปลี่ยนเอเจนซี่การตลาดออนไลน์

หากคุณเจอสัญญาณที่กล่าวมาข้างต้นในการทำงานร่วมกับเอเจนซี่ที่คุณใช้อยู่ อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเปลี่ยนเอเจนซี่ เพื่อทำให้การตลาดออนไลน์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่าปล่อยให้การจ้างงานกลายเป็นภาระที่คุณต้องคอยแก้ไข ลองมองหาเอเจนซี่ที่มีความตั้งใจจริง โปร่งใส พร้อมที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตบนโลกออนไลน์

หากคุณกำลังมองหาเอเจนซี่ใหม่ ที่สามารถช่วยยกระดับการตลาดออนไลน์ของคุณ พวกเรา SME Jump บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่คุณไว้วางใจ ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรี!

ข้อดีและจุดเด่นของ SME Jump

  • พาร์ทเนอร์ที่แท้จริง: เราไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่ง แต่เราตั้งใจที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ที่แท้จริง เราต้องการเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณ ช่วยแนะนำและเสนอแนวทางใหม่ๆ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • โปร่งใสในทุกขั้นตอน: SME Jump มีการรายงานผลที่โปร่งใส แยกค่าใช้จ่ายโฆษณาและค่าบริการอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบข้อมูลหลังบ้านได้ คุณสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ ได้รับ Certificate จากหลายแพลตฟอร์ม และเรายังได้รับเลือกให้เป็น Premier Google Partner ของประเทศไทย
  • สื่อสารและติดตามงานอย่างใกล้ชิด: เราให้ความสำคัญกับการสื่อสารและการติดตามงาน เราจะส่งรายงานให้กับคุณทุกอาทิตย์ และนัดประชุมออนไลน์กับทีมของคุณทุกเดือน เราจะไม่ทำให้คุณต้องคอยติดตามงานเอง และพร้อมที่จะให้คำแนะนำในการปรับปรุงแคมเปญอย่างสม่ำเสมอ
  • ผลลัพธ์คุ้มค่ากับการลงทุน: พวกเรามุ่งมั่น และพยายามให้การลงทุนของคุณเกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการปรับกลยุทธ์ และแคมเปญให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุดในการใช้บริการกับ SMEJUMP
ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลบริษัท

บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

Email: contact@smejump.com

Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

LINE : @smejump

จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ