วิธีการใช้ Google Ads เบื้องต้น
การใช้ Google Ads เบื้องต้น ในการวางโครงสร้างแคมเปญที่ถูกต้อง แนะนำการใช้งาน Google Ads ในปี 2025
การใช้ Google Ads เบื้องต้น: โครงสร้างแคมเปญที่ถูกต้อง
สำหรับผู้ที่กำลังใช้ Google Ads หรือกำลังเริ่มต้นทำโฆษณาบน Google ในปี 2025 สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ “โครงสร้างแคมเปญที่ถูกต้อง” ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ โดยเฉพาะกับ Search Ads ที่เน้นการค้นหาและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้คลิกไปยังเว็บไซต์ของคุณ
SME Jump รับทำ Google Ads พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ และในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับโครงสร้างแคมเปญที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากการลงทุนในโฆษณาของคุณ
โครงสร้างแคมเปญ Google Ads
Google Ads มีโครงสร้างที่ชัดเจนและแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลัก ได้แก่:
- แคมเปญ (Campaign) – เป็นระดับที่กำหนดวัตถุประสงค์ งบประมาณ และกลยุทธ์การเสนอราคา
- กลุ่มโฆษณา (Ad Group) – ใช้สำหรับจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดและข้อความโฆษณาให้สัมพันธ์กัน
- โฆษณา (Ads) – เป็นข้อความโฆษณาที่จะแสดงผลเมื่อผู้ใช้ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง และเมื่อลูกค้าคลิกที่โฆษณา ควรนำพวกเขาไปยังหน้าเว็บไซต์ปลายทาง (Landing Page) ที่สอดคล้องกับคีย์เวิร์ดและข้อความโฆษณา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเปลี่ยนผู้เข้าชมเป็นลูกค้า
แต่ละแคมเปญสามารถมีหลายกลุ่มโฆษณา และแต่ละกลุ่มโฆษณาสามารถมีหลายคีย์เวิร์ดและโฆษณาหลายตัวที่เกี่ยวข้องกัน นอกจากนี้ ในหนึ่งบัญชีโฆษณา คุณสามารถสร้างแคมเปญได้หลายแคมเปญ อาจจะเป็นแคมเปญที่มีวัตถุประสงค์ต่างกัน เช่น Search Ads, GDN หรือ YouTube Ads
หลักการแบ่งโครงสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อให้โฆษณาของคุณทำงานได้ดีที่สุด ควรจัดโครงสร้างแคมเปญให้ถูกต้องโดยการแยกกลุ่มโฆษณาและคีย์เวิร์ดตามหลักการดังนี้ Google Ads แนะนำให้จัดกลุ่มโฆษณาในลักษณะเดียวกับการจัดหมวดหมู่ของสินค้าหรือบริการ โดยคีย์เวิร์ดที่มีลักษณะคล้ายกันควรจัดรวมกันอยู่ในกลุ่มโฆษณาเดียวกัน ส่วนคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนควรแยกออกเป็นกลุ่มโฆษณาใหม่ เพื่อให้สามารถกำหนดข้อความโฆษณาและหน้า Landing Page ได้ตรงกับความต้องการของผู้ค้นหามากที่สุด
- แยกคีย์เวิร์ดที่คล้ายกันไว้ในกลุ่มโฆษณาเดียวกัน
- เช่น ถ้าคุณทำธุรกิจ รับทำการตลาดออนไลน์ และ รับยิงแอด Google Ads ควรแยกเป็น 2 กลุ่มโฆษณาแยกจากกัน
- กลุ่มโฆษณาที่เกี่ยวกับ การตลาดออนไลน์ ควรมีคีย์เวิร์ด เช่น “รับทำการตลาดออนไลน์”, “บริษัทการตลาดออนไลน์”
- กลุ่มโฆษณาที่เกี่ยวกับ Google Ads ควรมีคีย์เวิร์ด เช่น “รับยิงแอด Google”, “Google Ads Agency”
- เขียนข้อความโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มคีย์เวิร์ด ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มคะแนนคุณภาพ (Quality Score) ให้กับโฆษณาของคุณ เพราะหนึ่งในปัจจัยของการคิดคะแนนคุณภาพคือ ความสอดคล้องของคีย์เวิร์ดและข้อความโฆษณา (Ad Relevance)
- โฆษณาในกลุ่ม “การตลาดออนไลน์” ควรเน้นข้อความเกี่ยวกับบริการทำการตลาดออนไลน์
- โฆษณาในกลุ่ม “Google Ads” ควรเน้นข้อความเกี่ยวกับการให้บริการโฆษณาบน Google
- แยกหน้า Landing Page ให้เหมาะสม ด้วยวิธีการแยกกลุ่มโฆษณาตามคีย์เวิร์ดที่คล้ายกัน ทำให้คุณเขียนข้อความโฆษณาได้สอดคล้องกับคีย์เวิร์ดในกลุ่มโฆษณามากขึ้น และสามารถลิงก์ไปที่หน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ตรงกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ค้นหา และยังเป็นเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มคะแนนคุณภาพให้กับแคมเปญโฆษณาอีกด้วย เพราะหนึ่งในปัจจัยของการคิดคะแนนคุณภาพคือ ประสบการณ์บนหน้าเว็บไซต์ปลายทาง (Landing Page Experience)
- ลูกค้าที่ค้นหา “รับทำการตลาดออนไลน์” ควรเจอหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับบริการการตลาดออนไลน์โดยตรง
- ลูกค้าที่ค้นหา “รับยิงแอด Google Ads” ควรไปยังหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับบริการ Google Ads โดยเฉพาะ
ข้อดีของโครงสร้างแคมเปญที่ถูกต้อง
- ช่วยให้ข้อความโฆษณามีความเฉพาะเจาะจงและ Impact สูง – เมื่อข้อความโฆษณาตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา จะเพิ่มโอกาสให้เกิดการคลิกมากขึ้น
- เพิ่มคะแนนคุณภาพ (Quality Score) – ทำให้ต้นทุนต่อคลิก (CPC) ลดลงและอันดับโฆษณาดีขึ้น
- ช่วยให้สามารถจัดการงบประมาณได้ดีขึ้น – สามารถแยกงบประมาณให้แต่ละแคมเปญหรือลำดับความสำคัญของโฆษณาได้ง่ายขึ้น
สรุป: การใช้ Google Ads เบื้องต้น
หากคุณต้องการให้แคมเปญ Google Ads ของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุดในปี 2025 คุณควรแบ่งโครงสร้างแคมเปญให้ถูกต้องตามแนวทางที่กล่าวมา นอกจากจะช่วยเพิ่ม Quality Score และลดต้นทุนต่อคลิกแล้ว ยังทำให้โฆษณาของคุณ Impact ลูกค้าได้มากขึ้น
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ