วิธียิงแอด Facebook ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

เพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

วิธียิงแอด Facebook ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

การยิงแอด Facebook ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การเลือกใช้ Campaign Budget Optimization (CBO) ร่วมกับการสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Ad Set) หลายกลุ่มสามารถช่วยให้คุณจัดการงบประมาณโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น SMEJUMP บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ พวกเราขอนำเสนอบทความนี้ เพื่อแนะนำขั้นตอนการสร้าง Ad Set หลายกลุ่มภายใต้แคมเปญเดียว พร้อมทั้งเทคนิคในการเลือกกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้การยิงแอดมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

การใช้ Campaign Budget Optimization (CBO)

CBO เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ตัวจัดการโฆษณาของ Facebook สามารถกระจายงบประมาณระหว่าง Ad Set ต่างๆ ภายในแคมเปญได้โดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้มีข้อดีดังนี้:

  1. เพิ่มประสิทธิภาพของงบประมาณ: Facebook จะจัดสรรงบประมาณให้กับ Ad Set ที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด
  2. ลดเวลาการจัดการ: ไม่จำเป็นต้องปรับงบประมาณของ Ad Set ทีละชุด
  3. เหมาะสำหรับการทดลองหลายกลุ่มเป้าหมาย: ช่วยให้คุณเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

เกี่ยวกับ Advantage Campaign Budget

Advantage Campaign Budget เหมาะสำหรับแคมเปญที่มี Ad Set อย่างน้อย 2 ชุดขึ้นไป ฟีเจอร์นี้ (เดิมคือ Campaign Budget Optimization) จะช่วยจัดการงบประมาณของแคมเปญโดยอัตโนมัติ โดยกระจายงบประมาณไปยัง Ad Set ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์โดยรวมที่ดีที่สุด การใช้งาน Advantage Campaign Budget จะกำหนดให้มีงบประมาณศูนย์กลาง (Central Campaign Budget) เพียงงบเดียว และระบบจะกระจายงบประมาณนี้แบบเรียลไทม์ไปยัง Ad Set ที่มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตลอดระยะเวลาของแคมเปญ

ขั้นตอนการสร้าง Ad Set หลายกลุ่มภายใต้แคมเปญเดียว

  1. เข้าสู่ระบบตัวจัดการโฆษณา (Ads Manager):
    • คลิกที่ปุ่ม “สร้าง” (Create) เพื่อเริ่มต้นสร้างแคมเปญใหม่
  2. เลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญ:
    • เลือกวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย เช่น การมีส่วนร่วม (Engagement) เพิ่มยอดขาย (Conversions) หรือเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic)
  3. เปิดใช้งาน CBO:
    • ในขั้นตอนการตั้งค่าแคมเปญ ให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ “Campaign Budget Optimization” หรือชื่อเรียกใหม่คือ “Advantage Campaign Budget” เพื่อกำหนดให้ AI ของตัวจัดการโฆษณา Facebook ทำหน้าที่จัดสรรงบโฆษณาที่ใช้ในแต่ละ Ad Set แบบอัตโนมัติ
  4. สร้าง Ad Set หลายชุด:
    • เลือกรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการตามหน้าจอ หรือ คลิกที่ “เพิ่ม Ad Set” เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่
    • ระบุรายละเอียดของแต่ละ Ad Set เช่น อายุ เพศ ที่ตั้ง และความสนใจ (Interests)
  5. ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย (Audience):
    • นอกจากการเลือกข้อมูลกลุ่มเป้าหมายแบบปกติ คุณสามารถใช้ตัวเลือก “Custom Audience” สำหรับผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ เช่น คนที่เคยส่งข้อความเข้ามาในกล่องข้อความ หรือคนที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ  หรือ “Lookalike Audience” สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าปัจจุบัน เช่น กลุ่มคนที่กดถูกใจเพจ
  6. ตั้งค่าสื่อโฆษณา (Ad):
    • เพิ่มภาพหรือวิดีโอ โดยควรเน้นที่วิดีโอสั้นที่ดึงดูดสายตาในช่วง 3 วินาทีแรก พร้อมกับข้อความโฆษณาที่กระชับและโดดเด่น โดยควรมีการเรียกร้องให้ดำเนินการ (Call-to-Action) ที่ชัดเจน เช่น “คลิกเลย” หรือ “สั่งซื้อทันที” เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมของผู้ชม
  7. ตรวจสอบและเผยแพร่:
    • ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อนคลิก “เผยแพร่” (Publish) หลังจากกดเผยแพร่ ระบบจะทำการตรวจสอบแคมเปญโฆษณาของคุณว่าสอดคล้องกับนโยบายการทำโฆษณาของ Facebook หรือไม่ หากแคมเปญไม่มีปัญหาใดๆ โฆษณาของคุณจะถูกแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนด คุณสามารถตรวจสอบสถานะของโฆษณาได้ผ่านตัวจัดการโฆษณา (Ads Manager) เพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับความคืบหน้าและประสิทธิภาพของแคมเปญ

เทคนิคในการเลือกกลุ่มเป้าหมาย

  1. ศึกษาข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย:
    • ใช้ Facebook Audience Insights เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ นอกจากนี้ คุณอาจวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยการทำ Customer Persona โดยเน้นไปที่ไลฟ์สไตล์ ความต้องการ และปัญหาของลูกค้า การสร้าง Customer Persona จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าของคุณในเชิงลึกยิ่งขึ้น อีกทั้งคุณยังสามารถใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลลูกค้า (CRM) เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน เช่น การซื้อซ้ำ ความถี่ในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับโซเชียลมีเดียของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์และข้อความโฆษณาให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน:
    • เลือกช่วงอายุ เพศ และที่ตั้งที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ โดยในปัจจุบันลูกค้าคาดหวัง Personalization หรือการนำเสนอข้อมูลเฉพาะบุคคลมากขึ้น ดังนั้นคุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน พร้อมทั้งปรับตัวโฆษณา ข้อความ และข้อเสนอต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจและเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
  3. ใช้ Lookalike Audience:
    • ฟีเจอร์ Lookalike ของ Facebook ช่วยให้คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะใกล้เคียงกับลูกค้าปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณสามารถใช้ข้อมูลจากฐานลูกค้าที่มีอยู่ เช่น กลุ่มคนที่กดติดตามเพจของคุณ กลุ่มคนที่เคยส่งข้อความในกล่องข้อความของคุณ กลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ หรือกลุ่มคนที่เคยชมวิดีโอโพสต์ของคุณ เพื่อเป็นต้นแบบให้ระบบของ Facebook สร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คล้ายกับต้นฉบับ ช่วยให้การยิงแอดแม่นยำและมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
  4. แบ่งกลุ่มเป้าหมายย่อย:
    • ทดลองสร้าง Ad Set หลายชุดสำหรับแต่ละความสนใจ เพื่อดูว่ากลุ่มเป้าหมายใดให้ผลลัพธ์ดีที่สุด
  5. วิเคราะห์ผลลัพธ์:
    • การวิเคราะห์ผลลัพธ์เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาการยิงแอด Facebook ดังนั้นคุณควรติดตามแคมเปญโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม อัตราการคลิก และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ทั้งนี้การวิเคราะห์ผลลัพธ์ของโฆษณาในแต่ละกลุ่มเป้าหมายสามารถช่วยให้คุณปรับปรุงข้อความโฆษณา สื่อภาพ และกลยุทธ์โดยรวมของแคมเปญได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงแอดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น

ไอเดียการสร้างกลุ่มเป้าหมาย Facebook

คุณสามารถนำไอเดียกลุ่มเป้าหมายไปใช้เป็นธีมในการสร้างกลุ่มเป้าหมายแต่ละ Ad Set โดยหลักการคือ กลุ่มเป้าหมายในแต่ละ Ad Set ไม่ควรเหมือนกันหรือทับซ้อนกัน การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจะช่วยให้การจัดส่งโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เพื่อปรับปรุงแคมเปญในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

  1. กลุ่มผู้สนใจสุขภาพและการออกกำลังกาย เช่น ผู้ที่ติดตามเพจฟิตเนสหรือคลาสโยคะ
  2. กลุ่มคนรักการท่องเที่ยว เช่น ผู้ที่ติดตามบล็อกท่องเที่ยวหรือจองโรงแรมออนไลน์
  3. ผู้ที่สนใจการทำอาหาร เช่น ผู้ที่ติดตามเพจสูตรอาหารหรือร้านอุปกรณ์ทำครัว
  4. นักเรียนและนักศึกษา เช่น ผู้ที่กำลังหาคอร์สเรียนออนไลน์หรือสินค้าไอทีสำหรับการศึกษา
  5. ผู้ที่รักสัตว์เลี้ยง เช่น คนที่ติดตามเพจอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง
  6. คนที่กำลังวางแผนแต่งงาน เช่น ผู้ที่สนใจชุดแต่งงานหรือสถานที่จัดงาน
  7. กลุ่มผู้ที่สนใจเทคโนโลยี เช่น คนที่ติดตามข่าวสมาร์ทโฟนหรือแกดเจ็ตใหม่ๆ
  8. กลุ่มผู้ที่กำลังมองหางาน เช่น คนที่สนใจเพจประกาศงานหรือเครื่องมือพัฒนาทักษะ
  9. นักลงทุน เช่น ผู้ที่สนใจเพจเกี่ยวกับหุ้นหรือการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
  10. คนที่สนใจแฟชั่นและความงาม เช่น ผู้ที่ติดตามอินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่น
  11. กลุ่มที่รักการถ่ายภาพ เช่น ผู้ที่ติดตามเพจอุปกรณ์ถ่ายภาพหรือช่างภาพมืออาชีพ
  12. ผู้สนใจการตกแต่งบ้าน เช่น คนที่ค้นหาไอเดีย DIY หรือเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ
  13. คนที่กำลังมองหารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ เช่น ผู้ที่ติดตามเพจรีวิวรถยนต์
  14. ผู้ที่สนใจการเงินส่วนบุคคล เช่น คนที่ติดตามเพจวางแผนการเงิน
  15. นักเล่นเกม เช่น คนที่สนใจเพจข่าวเกมใหม่หรืออีสปอร์ต
  16. คนที่รักศิลปะ เช่น ผู้ที่ติดตามเพจแกลเลอรีหรือศิลปิน
  17. เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ผู้ที่สนใจบริการที่ช่วยพัฒนาธุรกิจ
  18. คนที่สนใจเดินป่าและกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ผู้ที่ติดตามเพจร้านขายอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง
  19. ผู้ที่มองหาความรู้ใหม่ เช่น คนที่สนใจคอร์สออนไลน์หรืออีบุ๊ก
  20. กลุ่มคนรักหนังสือ เช่น ผู้ที่ติดตามเพจร้านหนังสือหรือรีวิวหนังสือ

สรุป: วิธียิงแอด Facebook ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

การเลือกใช้ Advantage Campaign Budget ถือเป็นวิธีที่เปิดโอกาสให้ AI ของตัวจัดการโฆษณา Facebook ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยระบบจะกระจายงบประมาณไปยัง Ad Set ที่มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแบบเรียลไทม์ การใช้ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงบประมาณ แต่ยังช่วยให้การยิงแอดเป็นไปอย่างแม่นยำและตอบโจทย์เป้าหมายของแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


เกี่ยวกับ SMEJUMP

เราเป็นเอเจนซี่รับทำการตลาดออนไลน์ที่เชี่ยวชาญด้านการยิงแอดโฆษณาและการวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ด้วยทีมงานมืออาชีพและประสบการณ์มากกว่า 10 ปี เราได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิก Premier Google Partner ของประเทศไทย เราพร้อมช่วยคุณสร้างแบรนด์และขยายธุรกิจในทุกช่องทางออนไลน์

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

    ชื่อ-สกุล
    มือถือ
    E-Mail
    ข้อความ


    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน

    ข้อมูลบริษัท

    บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

    79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

    เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

    Email: contact@smejump.com

    Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

    LINE : @smejump

    จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

    เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ

    Hello

    Click here to add your own text