วิธีเลือกพื้นที่ยิงแอด Facebook Ads

การทำโฆษณาบน Facebook เป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจยุคดิจิทัล ระบบของ Facebook ช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายผู้ชมได้อย่างละเอียด รวมถึงการเลือกพื้นที่ที่จะเห็นโฆษณา ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของแคมเปญ

SMEJUMP รับทำโฆษณา Facebook Ads ขอนำเสนอ เทคนิคในการเลือกพื้นที่ยิงแอดเพื่อช่วยทำให้การยิงแอดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำงานของการส่งโฆษณาบน Facebook

Facebook ใช้ระบบประมูลและอัลกอริทึมในการแสดงโฆษณา โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา งบประมาณการโฆษณา และเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้ง Facebook ยังเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น การกดไลก์ การแชร์ การแสดงความคิดเห็น และเวลาที่ใช้ในแต่ละโพสต์ รวมถึงข้อมูลทางประชากรศาสตร์ เช่น อายุ เพศ ที่อยู่ และความสนใจส่วนตัว ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คนยิงแอดสามารถกำหนดเป้าหมายผู้ชมได้อย่างแม่นยำ การกำหนดพื้นที่ที่ชัดเจนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมได้มากขึ้น

การเลือกพื้นที่มีผลต่อโฆษณาอย่างไร?

การกำหนดพื้นที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในบริเวณที่ต้องการ เช่น เมืองที่มีลูกค้าจำนวนมาก หรือพื้นที่ที่มีโอกาสขายสินค้าได้สูง การเลือกพื้นที่อย่างแม่นยำช่วยลดต้นทุนต่อ Conversion และเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น ร้านค้าที่ต้องการให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมที่ร้าน สามารถเลือกแสดงโฆษณาในพื้นที่รอบร้าน เช่น รัศมี 10 กิโลเมตรจากที่ตั้งร้าน ขณะที่ผู้ขายสินค้าออนไลน์อาจเลือกแสดงโฆษณาทั่วประเทศไทย หรือแม้กระทั่งแสดงโฆษณาในต่างประเทศ เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วโลก

วิธีการเลือกพื้นที่สำหรับการยิงแอด Facebook

การเลือกพื้นที่สามารถทำได้ 4 รูปแบบดังนี้:

1. การเลือกจังหวัดหรืออำเภอ
   • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ให้บริการหรือขายสินค้าในพื้นที่เฉพาะ เช่น ร้านอาหารหรือคลินิกเสริมความงาม
   • ตัวอย่าง: เลือกกรุงเทพและปริมณฑล เนื่องจากธุรกิจตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง หรืออาจโฟกัสเจาะจงเป็นอำเภอหรือเขตเพื่อความแม่นยำในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
2. การเลือกตามรหัสไปรษณีย์
   • ใช้ในกรณีที่ต้องการความแม่นยำมากขึ้น เช่น โฆษณาให้เฉพาะพื้นที่ย่านธุรกิจหรือหมู่บ้านระดับพรีเมียม
   • ตัวอย่าง: เลือกรหัสไปรษณีย์ 10110 เพื่อเน้นย่านสุขุมวิท
3. การเลือกตามชื่อสถานที่สำคัญ
   • เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการดึงดูดลูกค้าในสถานที่ยอดนิยม เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือมหาวิทยาลัย
   • ตัวอย่าง: เลือกเซ็นทรัลเวิลด์, สถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT หรือ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ เพื่อครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่ต้องการ เพิ่มความแม่นยำในการแสดงโฆษณามากขึ้น
4. การปักหมุด
   • การปักหมุดเป็นวิธีที่สะดวกในการกำหนดพื้นที่แสดงโฆษณา โดยเฉพาะในบางพื้นที่ เช่น ในเขตนอกเมือง ที่อาจจะไม่มีสถานที่สำคัญอย่างชัดเจน ใช้สำหรับกำหนดพื้นที่เฉพาะจุด เช่น บริเวณรัศมี 1-10 กิโลเมตรรอบสถานที่ที่เลือก
   • ตัวอย่าง: ปักหมุดที่ออฟฟิศของบริษัทและตั้งค่ารัศมี 5 กิโลเมตร เพื่อดึงดูดลูกค้าบริเวณใกล้เคียง

ข้อดีและข้อเสียของการเลือกพื้นที่สำหรับยิงแอด

ข้อดี

• ประหยัดงบประมาณ: โฆษณาจะแสดงเฉพาะพื้นที่เป้าหมาย ลดการแสดงโฆษณาในพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้อง
• เพิ่มความเกี่ยวข้อง: ช่วยให้โฆษณาเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่นั้น ๆ
• ปรับแต่งได้ยืดหยุ่น: สามารถเลือกพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงได้ตามความต้องการ

ข้อเสีย

• จำกัดการเข้าถึง: หากกำหนดพื้นที่แคบเกินไป อาจพลาดโอกาสเข้าถึงลูกค้ากลุ่มอื่น
• ต้องการการวางแผนละเอียด: การกำหนดพื้นที่อย่างไม่รอบคอบอาจทำให้โฆษณาไม่เกิดผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง

การเลือกพื้นที่เหมาะกับใครและธุรกิจแบบไหน?

การเลือกพื้นที่เหมาะสำหรับ:

• ธุรกิจที่มีหน้าร้าน เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือคลินิก
• ธุรกิจที่ต้องการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง
• ธุรกิจที่ต้องการทดลองตลาดในพื้นที่เฉพาะก่อนขยายพื้นที่โฆษณา

ธุรกิจแบบไหนที่ไม่จำเป็นต้องเลือกพื้นที่?

• ธุรกิจออนไลน์ที่สามารถส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ
• บริการที่ไม่ขึ้นกับพื้นที่ เช่น คอร์สออนไลน์หรือซอฟต์แวร์
• แบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง เช่น แคมเปญเปิดตัวสินค้าใหม่

คำแนะนำ 5 เรื่องสำหรับการยิงแอดให้แม่น

1. วิเคราะห์ข้อมูลผู้ชม: ใช้ข้อมูลจาก Facebook Insights หรือ Google Analytics เพื่อเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย อาจจะทำการวิเคราะห์ Customer Persona เพื่อเข้าใจลูกค้าในเชิงลึกมากขึ้น เช่น ลักษณะประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการใช้งานออนไลน์ และความสนใจส่วนตัว นอกจากนี้ยังสามารถศึกษา Customer Journey เพื่อระบุ Touch Point ที่สำคัญและปรับปรุงประสบการณ์ในแต่ละขั้นตอน สร้างความพึงพอใจและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจของลูกค้า
2. ทดสอบ A/B Testing: ทดลองโฆษณาในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
3. ปรับงบประมาณตามประสิทธิภาพ: ลงทุนในพื้นที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด
4. เลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม: กำหนดเวลาที่กลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มเห็นโฆษณามากที่สุด เช่น ช่วงเย็นหรือวันหยุด ถ้ากลุ่มเป้าหมายคือพนักงานออฟฟิศ ควรเลือกช่วงเวลาเช้าก่อนเริ่มงาน (07:00 – 09:00) หรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน (17:00 – 20:00) ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขามีโอกาสใช้โซเชียลมีเดียสูง หากกลุ่มเป้าหมายคือ Gen Z ควรเลือกช่วงเวลาเย็นถึงค่ำ (19:00 – 23:00) เนื่องจากเป็นช่วงที่พวกเขามีเวลาว่างมากที่สุด การเลือกช่วงเวลานี้สามารถทำได้โดยการตั้งงบโฆษณาในระดับแคมเปญให้เป็น Lifetime Budget เพื่อให้สามารถกำหนดเวลาการแสดงผลโฆษณาได้อย่างแม่นยำ
5. อัปเดตโฆษณาอย่างต่อเนื่อง: ปรับปรุงเนื้อหาและการตั้งค่าโฆษณาให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสถานการณ์ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยิงแอดจากเว็บไซต์ Facebook โดยตรงได้ที่ Facebook Business Help Center เพื่อรับข้อมูลและคำแนะนำจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

ข้อหลีกเลี่ยง 5 เรื่องในการยิงแอด

1. กำหนดพื้นที่กว้างเกินไป: ทำให้เสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ ควรเลือกให้มีจำนวนคนในกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 6-8 ล้านคน ถ้ามากกว่านี้จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนคนมากเกินไป
2. ไม่วิเคราะห์ข้อมูลก่อนเลือกพื้นที่: ส่งผลให้โฆษณาไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย การเลือกกลุ่มเป้าหมายอย่าเดาไปเอง ควรอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ เช่น ข้อมูลประวัติการซื้อของลูกค้า หรือจากประสบการณ์ที่ได้คุยกับลูกค้าต่าง ๆ
3. ละเลยการวัดผล: ไม่ตรวจสอบ Conversion Rate หรือ ROI ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงแคมเปญได้
4. ใช้ข้อความโฆษณาไม่ดึงดูด: แคปชันและภาพโฆษณาเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลให้ผู้ชมสนใจและคลิกโฆษณา หากใช้ข้อความและภาพที่ไม่น่าสนใจ ผู้ชมจะมองข้ามโฆษณาไป
5. เลือกพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ: ทำให้โฆษณาแสดงต่อผู้ชมที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย ถ้าเป้าหมายคือการเพิ่มยอดขาย ควรเลือกพื้นที่ที่มีโอกาสขายสูงก่อน อย่าเลือกพื้นที่กว้างเกินไป แต่ถ้าเป้าหมายคือการสร้างแบรนด์ การเลือกพื้นที่กว้างจะเหมาะสมกว่า

สรุป: วิธีเลือกพื้นที่ยิงแอด Facebook Ads

การเลือกพื้นที่สำหรับยิงแอด Facebook เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของแคมเปญ การวางแผนและวิเคราะห์อย่างละเอียดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น สรุปการเลือกพื้นที่ 4 แบบมีดังนี้:

1. การเลือกจังหวัดหรืออำเภอ
2. การเลือกตามรหัสไปรษณีย์
3. การเลือกตามชื่อสถานที่สำคัญ
4. การปักหมุด