3 เคล็ดลับ การตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจบริการ
การตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจบริการ เพิ่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และดึงดูดลูกค้า
การตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจบริการ
การทำการตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจบริการที่มีความท้าทายเฉพาะตัว ลูกค้าที่มองหาบริการมักจะคำนึงถึงความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และข้อมูลเชิงลึก มากกว่าการดึงดูดด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงามเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ความยากของธุรกิจบริการที่แตกต่างจากการขายสินค้าก็คือ การนำเสนอด้วยภาพเพื่ออธิบายข้อดีของบริการทำได้ยากกว่านำเสนอสินค้า ดังนั้น การวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะช่วยทำให้ธุรกิจบริการของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าใจจุดเด่นของงานบริการของคุณมากขึ้น
จากประสบการณ์ของพวกเรา SMEJUMP บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ เราขอนำเสนอบทความ 3 เคล็ดลับสำคัญสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจบริการโดยเฉพาะ
3 เคล็ดลับ การตลาดออนไลน์
1.ใช้ Google Ads เพื่อดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาบริการของคุณ
Google Ads เป็นเครื่องมือการทำโฆษณาที่เหมาะกับธุรกิจบริการมากที่สุด สำหรับการเพิ่มการมองเห็นของธุรกิจบนโลกออนไลน์ เหตุผลเพราะ ธรรมชาติของความต้องการบริการต่างๆ ลูกค้ามักจะเริ่มจากค้นหาข้อมูลเพื่อศึกษารายละเอียด ความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการแต่ปัญหา ผ่านการค้นหาบน Google
ทำไม Google Ads ถึงสำคัญสำหรับธุรกิจบริการ?
การโฆษณาผ่าน Google Ads ช่วยให้คุณสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจตรงกับบริการของคุณได้ทันที โดยการเจาะหาลูกค้าด้วยคีย์เวิร์ด ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นธุรกิจทำความสะอาดบ้าน คุณสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ หรือคีย์เวิร์ดที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูล เช่น “บริการทำความสะอาดบ้าน,” “แม่บ้านทำความสะอาด,” หรือ “ทำความสะอาดคอนโด” เมื่อมีผู้ค้นหาคำเหล่านี้ โฆษณาของคุณจะปรากฏบนหน้าผลการค้นหา เป็นการทำโฆษณาตรงไปหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่กำลังหาข้อมูลและอยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อ
วิธีการใช้ Google Ads ให้ได้ผลสูงสุด
- เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม: ใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับบริการของคุณ และเลือกคำที่มีปริมาณการค้นหาสูงแต่มีการแข่งขันต่ำ โดยเลือกใช้คีย์เวิร์ดการทำงานแบบวลี (Phrase Match) ในการทำโฆษณาบน Google Ads เพื่อควบคุมการแสดงโฆษณาไม่ให้กว้างจนเกินไป
- สร้างหน้าเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ: เมื่อคลิกที่โฆษณา ลูกค้าจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นเว็บไซต์ควรมีข้อมูลที่ครบถ้วน แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ เช่น รายละเอียดบริการ รีวิวจากลูกค้า และภาพหรือวิดีโอที่สื่อถึงคุณภาพของงาน
การทำโฆษณา Google Ads สามารถใช้เว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊กเพจในการทำงานโฆษณา แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ เว็บไซต์ เพราะคุณสามารถปรับแต่งคอนเทนต์แต่ละหน้าให้แตกต่างกัน สอดคล้องการกลุ่มคีย์เวิร์ดที่คุณใช้ในการทำโฆษณา ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของโฆษณา Google Ads ดีกว่า การส่งคนไปที่เฟซบุ๊กเพจ ยกตัวอย่างเช่น ในกลุ่มคีย์เวิร์ด “แม่บ้านทำความสะอาด” เมื่อคลิกที่โฆษณา จะถูกส่งไปที่หน้าเว็บไซต์ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น และรายละเอียดของงานที่แม่บ้านจะทำให้กับคุณ แต่ถ้าการคลิกมาจากกลุ่มคีย์เวิร์ด “ทำความสะอาดคอนโด” จะถูกส่งไปอีกหน้าหนึ่งในเว็บไซต์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำความสะอาดคอนโดโดยเฉพาะ
ผลลัพธ์ที่ได้คือความน่าเชื่อถือ และการตัดสินใจของลูกค้าจะเพิ่มขึ้น หากคุณสนใจบริการรับทำ Google Ads ปรึกษา SME jump ฟรี
2.ปิดการขายด้วย Remarketing บน Facebook Ads
หลังจากที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้าชมเว็บไซต์ของคุณแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจทันที กลยุทธ์ที่จะช่วยกระตุ้นกลุ่มคนเหล่านี้ให้กลับมาตัดสินใจซื้อ คือการใช้ Remarketing บน Facebook Ads โฆษณารูปแบบนี้ช่วยเสริมการทำโฆษณา Google Ads เป็นอย่างดี และช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มคนเหล่านั้น ที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ด้วยการค้นหาบน Google
Remarketing คืออะไร?
Remarketing เป็นการนำเสนอโฆษณาให้กับผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน โฆษณาจะถูกแสดงซ้ำใน Facebook หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นคุณซ้ำๆ จดจำแบรนด์ของคุณได้ และกระตุ้นให้กลับมาที่เว็บไซต์ ซึ่งการทำ Facebook Remarketing โฆษณาสามารถติดตามกลุ่มคนในหลายตำแหน่ง เช่น Facebook Feed, Reels, Instagram และเว็บไซต์พันธมิตรของ Facebook เป็นการทำโฆษณาข้ามแพลตฟอร์มที่ช่วยส่งเสริมการ Google Ads ได้อย่างดี
วิธีการทำ Remarketing ให้ได้ผลดี
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง: เจาะกลุ่มลูกค้าที่เคยคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ โดยอาจจะเลือกเฉพาะหน้าที่เป็นบริการนั้นๆแยกกัน เช่น หน้าเว็บไซต์เกี่ยวกับแม่บ้านทำความสะอาด แยกออกจากหน้าเว็บไซต์ทำความสะอาดคอนโด เพื่อทำให้คุณสามารถแยกกลุ่มคนที่จะทำ Remarketing ได้ และวิธีการทำ Facebook Remarketing เราจะทำผ่านการติดตั้ง Facebook Pixel ที่หน้าเว็บไซต์ และทำการ setup ที่ระบบหลังบ้าน Facebook Ads เพื่อสร้างกลุ่มคนตามหน้าเว็บไซต์ที่เราต้องการ
- ใช้คอนเทนต์ที่มีความลึก: เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ รู้จักแบรนด์และรับทราบข้อมูลธุรกิจของคุณแล้ว เพราะพวกเขาเคยเข้าไปในเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นคอนเทนต์ที่จะส่งไปทาง Facebook Remarketing ควรเป็นคอนเทนต์เชิงลึกเพื่อช่วยการตัดสินใจของลูกค้า เช่น คอนเทนต์แสดงวิธีแก้ปัญหา วิดีโอแสดงรายละเอียดการทำงาน ภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังใช้บริการ หรือโปรโมชั่นพิเศษในบริการที่ลูกค้าเคยเข้ามาดู
นอกจากนี้ จากการที่คุณสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าตามบริการที่พวกเขาสนใจ ตามที่แนะนำไว้ข้างต้น ทำให้คุณสามารถส่งคอนเทนต์ที่ตรงความต้องการ และตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีกว่า เช่น คนที่เคยเข้ามาในหน้าเว็บไซต์ บริการทำความสะอาดคอนโด คุณสามารถสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับรายละเอียดการทำความสะอาดคอนโด พร้อมผลงานคอนโดที่คุณเคยทำ และนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการทำความสะอาดคอนโด เป็นต้น
- สร้างความเร้าใจ: เพิ่มข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น ส่วนลดหรือแพ็กเกจพิเศษสำหรับการจองบริการ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจผ่านคอนเทนต์และแคปชั่นโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจ ควรใช้ภาษาที่เร้าใจและมีพลังเพื่อกระตุ้นให้ตัดสินใจ โดยการใส่จำนวน และเงื่อนไขเวลาเพื่อเป็นตัวเร่งการตัดสินใจ เช่น:
- “จองวันนี้ ลดทันที 20%! รีบรับสิทธ์ก่อนหมดเขต!”
- “ทำความสะอาดบ้านครั้งแรก ลดค่าบริการ 50%!”
- “บริการพิเศษเฉพาะเจ้าของห้องคอนโด ฟรีของแถมเมื่อจองภายในสัปดาห์นี้!”
- “เปลี่ยนบ้านให้สะอาดรับปีใหม่ รับส่วนลดสูงสุดถึง 30%!”
- “อย่าพลาด! โปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณลูกค้าที่เห็นแอดนี้เท่านั้น!”
การใช้ข้อความที่สร้างความเร้าใจเหล่านี้ ช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกสนใจและกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจใช้บริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น Remarketing เป็นวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณยังอยู่ในใจลูกค้า และทำให้การตัดสินใจใช้บริการของพวกเขาง่ายขึ้น คุณสามารถสอบถามข้อมูลสำหรับการทำโฆษณาในรูปแบบนี้ได้ หากคุณสนใจบริการรับทำโฆษณา Facebook Ads
3.สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยวิดีโอบน YouTube และ TikTok
ในยุคที่วิดีโอครองพื้นที่สื่อออนไลน์ การสร้างวิดีโอคอนเทนต์เป็นอีกหนึ่งวิธีได้ผลอย่างมากในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจบริการ และสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์มที่มีคนไทยนิยมใช้งานสูงอย่าง YouTube และ TikTok
วิดีโอช่วยสร้างแบรนด์ได้อย่างไร?
วิดีโอเป็นเครื่องมือที่ทำให้แบรนด์ของคุณสามารถแสดงตัวตน ความเชี่ยวชาญ และเรื่องราวของคุณได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะธุรกิจบริการ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่คาดหวังความเชี่ยวชาญ ความสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด แนวทางของการทำคอนเทนต์วิดีโอ เช่น
- การแนะนำวิธีการทำงาน
- การรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้บริการ
- การเผยเบื้องหลังการทำงานในธุรกิจของคุณ
แนวทางเนื้อหาวิดีโอที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับธุรกิจบริการ
- การแก้ปัญหา: สร้างวิดีโอที่ตอบคำถามที่มักถูกถามบ่อยจากลูกค้า หรือให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า การนำเสนอคอนเทนต์แนวนี้จะแฝงให้ลูกค้าเห็นถึงความเชี่ยวชาญของคุณ เช่น “5 เคล็ดลับทำความสะอาดบ้านแบบมืออาชีพ”
- รีวิวจากลูกค้า: ถ่ายทำวิดีโอสั้น ๆ ที่ลูกค้าแชร์ประสบการณ์ตรงหลังใช้บริการ
- เบื้องหลังการทำงาน: แสดงภาพการทำงานในแต่ละวัน เพื่อสร้างความใกล้ชิดและความน่าเชื่อถือ ทำให้งานบริการถูกจับต้องได้มากขึ้น ลูกค้าสามารถเห็นตัวอย่างวิธีการทำงาน และผลลัพธ์ที่จะได้รับ ผ่านการคอนเทนต์วิดีโอเบื้องหลังการทำงานของคุณ
ทำไมต้องใช้ TikTok และ YouTube?
- YouTube: เหมาะสำหรับวิดีโอที่ต้องการนำเสนอรายละเอียดเชิงลึก และวิธีแก้ปัญหา เมื่อลูกค้าต้องการหาข้อมูล พวกเขาจะค้นหาใน Google แต่ถ้าลูกค้าต้องการวิธีแก้ปัญหา พวกเขาจะค้นหาใน YouTube ดังนั้น คอนเทนต์ใน YouTube จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเชี่ยวชาญให้กับธุรกิจบริการของคุณได้เป็นอย่างดี อย่าพลาดบริการรับทำโฆษณา YouTube Ads อย่างมีประสิทธิภาพ
- TikTok: เหมาะสำหรับวิดีโอสั้น ๆ ที่มีความน่าสนใจและเข้าถึงได้ง่าย คนส่วนใหญ่คาดหวังความบันเทิง ดูสนุก ดังนั้น คอนเทนต์ใน TikTok จะช่วยสร้างแบรนด์ และการจดจำธุรกิจบริการของคุณได้ดี โดยการนำเสนอวิดีโอสั้นอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งยิงแอด ทำโฆษณา TikTok เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอนเทนต์ของคุณ บริการรับทำ TikTok Ads
เมื่อคุณสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ ลูกค้าจะรู้สึกเชื่อมั่นในบริการของคุณและจดจำแบรนด์ของคุณในระยะยาว
สรุป: การตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจบริการ
ธุรกิจบริการมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากธุรกิจที่เน้นขายสินค้าเป็นหลัก โดยธุรกิจบริการนำเสนอสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งอาจยากต่อการถ่ายทอดผ่านคอนเทนต์ออนไลน์ ดังนั้น การวางกลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจบริการจึงควรมุ่งเน้นที่การสร้างความเชี่ยวชาญ ภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ และการแสดงวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเคล็ดลับ 3 ข้อนี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้ Google Ads เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่กำลังมองหาบริการ และกำลังจะตัดสินใจซื้อ
- ปิดการขายด้วย Remarketing บน Facebook Ads
- สร้างแบรนด์ และความน่าเชื่อถือผ่านวิดีโอบน YouTube และ TikTok
เมื่อนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ ธุรกิจของคุณจะสามารถดึงดูดลูกค้า เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างแบรนด์ที่ลูกค้าจดจำได้ในระยะยาว เริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ SME jump บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing เพื่อช่วยให้คุณทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ SME jump ดูแลแคมเปญโฆษณาของคุณอย่างโปร่งใส และใส่ใจ
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ