หาคำตอบ Customize ChatGPT คืออะไร?

Customize ChatGPT คืออะไร

การใช้ฟีเจอร์ Customize ChatGPT ปัจจุบัน ChatGPT กำลังเป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับการค้นหาข้อมูล การทำงาน และการสนทนาเสมือนจริงที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้งาน ChatGPT มีประสิทธิภาพสูงสุด มีฟีเจอร์หนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่เคยใช้ นั่นก็คือ Customize ChatGPT ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการตอบคำถามของ AI ให้ตรงตามความต้องการเฉพาะของตนได้ง่ายๆ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Customize ChatGPT คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และจะทำให้ ChatGPT ตอบคำถามได้ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างไร พร้อมวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้คุณใช้ ChatGPT ได้เก่งขึ้น

Customize ChatGPT คืออะไร?

ฟีเจอร์ Customize ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดการตอบคำถามของ ChatGPT ให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านบริบทของการสนทนา โทนเสียง การเน้นหัวข้อ หรือแม้กระทั่งสไตล์การตอบคำถามที่ต้องการ

ปกติแล้วการเขียน Prompt เพื่อให้ ChatGPT เข้าใจ เรามักต้องใช้เทคนิคการเขียน Prompt Engineering ซึ่งมักจะต้องเขียนซ้ำๆ ทุกครั้งที่สั่งงาน ChatGPT แต่ด้วยฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้สามารถกำหนดการตอบล่วงหน้าได้ ทำให้ ChatGPT เข้าใจถึงความต้องการเฉพาะตัวได้อย่างแม่นยำ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ ChatGPT เข้าใจถึงความต้องการและลักษณะเฉพาะของผู้ใช้งาน ทำให้การสนทนาเกิดประสิทธิภาพ ลดการตอบคำถามที่ไม่ตรงใจ และลดความจำเป็นในการพิมพ์ข้อมูลซ้ำๆ ในทุกครั้ง

ประโยชน์ของ Customize ChatGPT

การที่ ChatGPT สามารถเข้าใจลักษณะและความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างเฉพาะเจาะจงนั้น ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับคำตอบที่เหมาะสมกับตนเอง แต่ยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วและลดเวลาในการพิมพ์รายละเอียดหรือคำอธิบายซ้ำๆ ในทุกๆ การสนทนาอีกด้วย นี่คือประโยชน์หลักที่ Customize ChatGPT นำเสนอ:

1. ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย: ไม่ว่าคุณจะใช้ ChatGPT เพื่อการเรียนรู้ การทำงาน หรือแม้กระทั่งเพื่อความบันเทิง Customize ChatGPT จะช่วยให้การตอบคำถามของ AI สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เฉพาะของคุณ
2. ลดความซ้ำซ้อนในการให้ข้อมูล: เมื่อมีการปรับแต่งข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวคุณล่วงหน้า ChatGPT สามารถตอบคำถามได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น ลดความจำเป็นในการพิมพ์รายละเอียดเดิมซ้ำๆ อย่างที่กล่าวด้านบน คุณไม่ต้องอธิบาย Persona ของตัวคุณซ้ำๆ ทุกครั้งในการสั่ง ChatGPT ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
3. สร้างความสัมพันธ์ที่เฉพาะเจาะจง: ด้วยข้อมูลส่วนตัวที่ให้ไว้ ChatGPT จะสามารถสร้างคำตอบที่ใกล้เคียงกับบริบททางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และความชื่นชอบเฉพาะตัวของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเขียนข้อมูล Persona เกี่ยวกับตัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความชื่นชอบ งานอดิเรก หรือบริบทเฉพาะด้าน ทำให้ ChatGPT เข้าใจตัวตนของคุณได้ดียิ่งขึ้น และสามารถตอบคำถามได้อย่างเหมาะสมและตรงใจมากขึ้น
4. ลดการเกิดคำตอบที่ไม่ตรงตามความคาดหวัง: ด้วยการตั้งค่าการตอบคำถามเบื้องต้น ฟีเจอร์นี้จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพราะ ChatGPT เข้าใจในบริบทเกี่ยวกับตัวคุณ สามารถตอบคำถามได้ตามสไตล์ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแบบเป็นทางการหรือแบบกันเอง ทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงกับความต้องการของคุณมากยิ่งขึ้น

วิธีการปรับแต่ง ChatGPT ด้วยฟีเจอร์ Customize ChatGPT

ฟีเจอร์ Customize ChatGPT ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่าเบื้องต้นได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถเลือกตอบคำถามต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ ChatGPT เข้าใจและสามารถให้คำตอบที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากขึ้น นี่คือวิธีการปรับแต่ง ChatGPT ในแบบต่างๆ ที่สามารถทำได้

1. ระบุสถานที่ที่คุณอยู่ (Where are you based?)

การระบุที่อยู่หรือบริบททางภูมิศาสตร์ของคุณ เช่น เมือง ประเทศ หรือภูมิภาค หรือแม้กระทั่งพื้นที่ของกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้ ChatGPT สามารถเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของพื้นที่นั้นๆ เช่น วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้อง ทำให้การตอบคำถามสามารถสอดคล้องกับบริบทของคุณหรือกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณอยู่ในประเทศไทย ChatGPT จะสามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับฤดูกาลปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งการแนะนำอาหารที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคนั้นๆ ได้ดีขึ้น

2. บอกข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพหรือการทำงานของคุณ (What do you do for work?)

ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของคุณ เช่น นักการตลาด นักพัฒนาโปรแกรม หรือแม้กระทั่งการเป็นเจ้าของธุรกิจ จะช่วยให้ ChatGPT สามารถให้คำแนะนำหรือข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นได้ โดยการใช้ภาษาหรือข้อมูลเชิงเทคนิคที่เหมาะสม

ตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานเป็นนักการตลาดหรือเป็นเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ที่ให้บริการทำโฆษณา Google Ads ChatGPT สามารถแนะนำกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้โดยเฉพาะ ทำให้คำตอบมีความเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคุณ ช่วยให้สามารถวางแผนและดำเนินการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. ระบุความสนใจและงานอดิเรก (What are your hobbies and interests?)

การที่ ChatGPT ทราบถึงงานอดิเรกหรือความสนใจของคุณจะช่วยให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณสนใจมากขึ้น เช่น การพูดคุยเกี่ยวกับกีฬา การเขียนโปรแกรม หรือการสะสมหนังสือ ข้อมูลนี้ยังช่วยในการตอบคำถามส่วนตัว เช่น แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำร้านอาหาร หรือรีวิวภาพยนตร์ที่น่าดู สิ่งนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศการสนทนาที่มีความเกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงกับความต้องการของคุณได้มากยิ่งขึ้น

4. หัวข้อที่คุณสามารถพูดคุยได้อย่างลึกซึ้ง (What subject can you talk about for hours?)

การระบุหัวข้อที่คุณมีความเชี่ยวชาญหรือสามารถพูดคุยได้อย่างยาวนานจะช่วยให้ ChatGPT เข้าใจระดับความลึกซึ้งของข้อมูลที่คุณต้องการ คำถามนี้เป็นสิ่งที่ ChatGPT เขียนเอาไว้ เพื่อทำให้ได้ข้อมูลที่ลึกลงไปเกี่ยวกับความสนใจของคุณ เช่น ชอบเรื่องเกี่ยวกับไอที กีฬา อาหาร หรืออื่นๆ หากคุณระบุว่าเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ChatGPT สามารถให้คำตอบในเชิงลึกหรือข้อมูลที่ลึกซึ้งมากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับระดับความเชี่ยวชาญของคุณ

5. ระบุเป้าหมายของคุณ (What are some goals you have?)

การที่ ChatGPT รู้เป้าหมายระยะยาวของคุณทั้งในชีวิตส่วนตัวและด้านอาชีพ จะช่วยให้ AI สามารถให้คำแนะนำหรือแนวทางที่เหมาะสมกับการพัฒนาและการก้าวหน้าของคุณได้มากยิ่งขึ้น โดยหัวข้อนี้ส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับเรื่องงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต เช่น เป้าหมายด้านการเรียนรู้ เป้าหมายทางอาชีพ หรือการสร้างสุขภาพที่ดี

ปรับแต่งสไตล์การตอบคำถามของ ChatGPT

นอกจากการใส่ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวคุณแล้ว Customize ChatGPT ยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถปรับแต่งวิธีการตอบคำถามของ ChatGPT ตามสไตล์ที่คุณชอบได้ เทคนิคที่ผู้เขียนใช้ คือการรวบรวมคำถามทั้งหมดที่ต้องการไปบอก ChatGPT ให้เขียนออกมาก่อน แล้วจึงมาปรับแก้ไขให้ตรงกับบริบทของตัวผู้เขียน เทคนิคนี้ช่วยให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถปรับแก้ให้ตรงตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงได้มากยิ่งขึ้น

ตัวเลือกเหล่านี้ช่วยให้ ChatGPT เข้าใจความต้องการเฉพาะตัวของคุณได้มากขึ้นและทำให้คำตอบมีความเกี่ยวข้องและเหมาะสมมากขึ้น

1. ปรับระดับความเป็นทางการ (How formal or casual should ChatGPT be?)

คุณสามารถกำหนดให้ ChatGPT ตอบคำถามในสไตล์ที่เป็นทางการหรือลดความเป็นทางการลงเพื่อให้การสนทนาเป็นไปในลักษณะกันเอง ซึ่งจะเหมาะกับวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การใช้เพื่อสนทนาในเชิงธุรกิจหรือต้องการเพื่อนคุยที่เป็นกันเอง จริงๆ แล้ว ฟีเจอร์การปรับระดับภาษานี้ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน ChatGPT-4 with Canvas ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับระดับความเป็นทางการได้อย่างยืดหยุ่นและง่ายดายยิ่งขึ้น

2. กำหนดความยาวของคำตอบ (How long or short should responses generally be?)

ChatGPT สามารถปรับความยาวของคำตอบได้ตามที่คุณต้องการ หากคุณต้องการคำตอบที่สั้น กระชับ เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว หรือต้องการคำตอบที่ละเอียดมากขึ้น คุณก็สามารถบอกให้ ChatGPT ปรับความยาวได้ ตัวอย่างเช่น หากงานของคุณส่วนใหญ่คือการเขียนบทความหรือทำ SEO ที่ต้องการความยาวบทความมาก เช่น 300-500 คำ คุณสามารถแจ้งให้ ChatGPT รู้ล่วงหน้า เพื่อให้ได้คำตอบที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด

3. การออกความคิดเห็น (Should ChatGPT have opinions on topics or remain neutral?)

การให้ ChatGPT ตอบคำถามโดยมีความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลแบบเป็นกลางนั้นสามารถเลือกได้ตามความต้องการของคุณ หากคุณต้องการคำตอบที่เป็นข้อมูลอย่างเป็นกลาง หรือหากต้องการความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ

Customize ChatGPT คือการทำให้ AI ตรงใจและเป็นผู้ช่วยเฉพาะตัว

ฟีเจอร์ Customize ChatGPT ทำให้การใช้งาน ChatGPT มีประสิทธิภาพและความสะดวกสบายมากขึ้น โดยไม่ว่าคุณจะใช้ ChatGPT เพื่อทำงาน เรียนรู้ หรือเพื่อความบันเทิง ฟีเจอร์นี้จะทำให้ ChatGPT เป็นผู้ช่วยที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะตัวของคุณ ทำให้คุณสามารถมุ่งเน้นในการสนทนาที่ตรงกับเป้าหมายของคุณได้เสมอ ที่สำคัญ ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องเก่งเรื่อง Prompt Engineering เพราะสามารถตั้งค่าให้ ChatGPT เข้าใจในบริบทและความต้องการเฉพาะตัวของคุณได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ