การจ้างเอเจนซี่โฆษณา: เคล็ดลับการตลาดออนไลน์

การจ้างเอเจนซี่โฆษณา: เคล็ดลับการตลาดออนไลน์

ถ้าพูดถึง การจ้างเอเจนซี่โฆษณา ในฐานะที่ SMEJUMP เป็นบริษัทเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Google Ads เราจะมาอธิบายวิธีการจ้างเอเจนซี่โฆษณาให้คุ้มค่า เพราะ การจ้างเอเจนซี่โฆษณาให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอาจไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่ได้มีการวางแผนที่ดีและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด

ในบทความนี้เราจะพูดถึงแนวทางที่สามารถช่วยให้การจ้างเอเจนซี่โฆษณานั้นตอบโจทย์ความต้องการทางการตลาด และสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุดให้กับธุรกิจของคุณ อ่านเคล็ดลับด้านล่างนี้!

1. กำหนดเป้าหมายทางการตลาดที่ชัดเจน

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกหาเอเจนซี่โฆษณามาทำงานให้กับคุณ ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือ การกำหนดเป้าหมายทางการตลาดที่คุณต้องการให้ชัดเจน เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นเข็มทิศในการดำเนินการต่างๆ โดยเป้าหมายควรมีความเฉพาะเจาะจงและวัดผลได้ เช่น ต้องการเพิ่มยอดขายให้ได้ 20% ภายใน 6 เดือน หรือต้องการเพิ่มผู้ติดตามในสื่อสังคมออนไลน์ให้ได้ 10,000 คนภายในไตรมาสถัดไป

นอกจากนี้ การกำหนดเป้าหมายต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น งบประมาณและเวลา การที่คุณมีเป้าหมายจะเป็นตัวช่วยในการคุยกับเอเจนซี่โฆษณา เพื่อค้นหาว่าเอเจนซี่โฆษณาสามารถทำตามเป้าหมายที่คุณต้องการได้หรือไม่  หรือเอเจนซี่เขาจะมีคำแนะนำอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น การมีเป้าหมายการตลาดที่ชัดเจน ยังช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจตรงกันตั้งแต่เริ่มต้นการทำงาน

ตัวอย่างเป้าหมายทางการตลาดที่ควรกำหนด: (ก่อนจ้างเอเจนซี่โฆษณา)

– เพิ่มยอดขายจากช่องทางออนไลน์ให้ได้ 15% ในไตรมาสหน้า

– ขยายฐานลูกค้าใหม่จากกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 25-35 ปีในกรุงเทพฯ

– เพิ่มการรับรู้แบรนด์ในตลาดต่างประเทศภายใน 6 เดือน

2. เลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่กว้างเกินไป

การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญในการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ หลายครั้งที่ธุรกิจมักมองว่า การยิงโฆษณาให้เข้าถึงคนจำนวนมากที่สุด เป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ความจริงแล้วการพยายามเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างเกินไป อาจทำให้คุณเสียงบประมาณมากขึ้นโดยไม่เกิดผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน เพราะค่าโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกๆปี

ดังนั้นการเริ่มต้นจาก การเลือกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ หรือกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับสินค้าหรือบริการของคุณจะมีประโยชน์มากกว่า เช่น แทนที่จะพยายามเข้าถึงทุกคน คุณอาจเริ่มจากกลุ่มลูกค้าที่มีอายุ 18-25 ปี ที่มีความสนใจในแฟชั่น หรือกลุ่มคนวัยทำงานที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เมื่อแคมเปญโฆษณาเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีจากกลุ่มเฉพาะเหล่านี้ คุณมีทางเลือกที่จะค่อย ๆ ขยายกลุ่มเป้าหมายออกไปในระยะต่อไป หรืออาจจะแบ่งเฟสการทำงานกับเอเจนซี่โฆษณา เพื่อทำให้การวัดผลชัดเจนมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อดีของกลยุทธ์นี้คือ ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการใช้ทรัพยากรอย่างเปล่าประโยชน์ แต่ยังช่วยให้คุณสามารถติดตามและวัดผลการทำงานได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้รวดเร็วหากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาด

ตัวอย่างการระบุกลุ่มเป้าหมาย: 

– กลุ่มผู้หญิงอายุ 30-45 ปีที่สนใจสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม

– กลุ่มผู้ชายอายุ 25-40 ปีที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและสมาร์ทแก็ดเจ็ต

– กลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-24 ปีที่ติดตามแฟชั่นในโซเชียลมีเดีย

3. ทำงานร่วมกับเอเจนซี่เพื่อค้นหารูปแบบโฆษณาที่เหมาะสม

เมื่อคุณเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว การทำงานร่วมกับเอเจนซี่เพื่อ ค้นหารูปแบบโฆษณาที่เหมาะสม เป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์มักมีความเชี่ยวชาญในด้านการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อโฆษณาที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านเนื้อหาและการเข้าถึง ในขั้นตอนนี้คุณควรขอให้เอเจนซี่โฆษณาทำการบ้านให้กับคุณ ในการนำเสนอรูปแบบโฆษณาที่ตอบโจทย์เป้าหมายที่คุณต้องการ 

ยกตัวอย่างเพื่อให้คุณเห็นภาพ รูปแบบโฆษณาออนไลน์มีหลายรูปแบบ เช่น Google Ads แสดงโฆษณาบนหน้า Google Search เน้นไปที่ผู้ที่ค้นหาข้อมูลพร้อมซื้อ โฆษณา Facebook Ads ช่วยดึงดูดความสนใจได้ดี โฆษณาแบบรูปภาพ และวิดีโอเน้นการสื่อสารผ่านภาพลักษณ์ หรือการใช้คอนเทนต์เชิงบวกเพื่อสร้างความรู้สึกต่อแบรนด์ การเลือกสื่อโฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและแพลตฟอร์มที่ใช้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ประโยคต่อไปคือไอเดียที่น่าลองทำ

นอกจากนี้คุณอาจจะขอให้เอเจนซี่ช่วยทดลองทำใช้รูปแบบโฆษณาหลาย ๆ แบบ (A/B testing) ก็เป็นวิธีที่ดีในการค้นหาว่าโฆษณาแบบไหนที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

4. เอเจนซี่ควรรายงานผลลัพธ์โฆษณาอย่างสม่ำเสมอ

การจ้างเอเจนซี่โฆษณาไม่ควรเป็นการทำงานที่จบแค่การปล่อยแคมเปญ สิ่งสำคัญที่ทำให้การจ้างเอเจนซี่มีความคุ้มค่าคือ การติดตามผลลัพธ์โฆษณาอย่างสม่ำเสมอ  เอเจนซี่ควรจัดทำรายงานที่สรุปภาพรวมและผลลัพธ์การทำงานของแคมเปญ เช่น จำนวนคลิก, อัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate), อัตราการเปลี่ยนแปลง (Conversion Rate) เป็นต้น ตัวอย่างเช่น SMEJUMP มีการรายงานผลลัพธ์ของการทำโฆษณาให้กับลูกค้า ทุกอาทิตย์ 

ดังนั้นการที่เอเจนซี่รายงานผลอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้รวดเร็วหากพบว่าโฆษณาไม่ได้ผลตามที่ต้องการ รวมถึงยังสามารถช่วยให้คุณเข้าใจถึงประสิทธิภาพของงบประมาณที่ใช้ และวิเคราะห์ถึงโอกาสในการปรับปรุงในอนาคต ด้านล่างคือตัวอย่างที่ SMEJUMP ทำให้กับลูกค้า

ตัวอย่างการรายงานผลลัพธ์:

– รายงานจำนวนคลิกและอัตราการคลิกต่อการแสดงผล และงบโฆษณาที่ใช้ไปต่ออาทิตย์

– อัตราการ Conversion การเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นลูกค้า

– ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลใน Google Ads เปรียบเทียบการทำโฆษณากับคู่แข่งรายอื่นๆ

-การใช้ Dashboard เพื่อรายงานผลลัพธ์โฆษณาแบบ Real Time เช่น การใช้ Looker Studio

5. ควรมีการประชุมกับเอเจนซี่ทุกเดือนเพื่อติดตามงานและปรับกลยุทธ์

จากประสบการณ์ของ SMEJUMP การประชุมกับเอเจนซี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญโฆษณายังคงมุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง การประชุมกับเอเจนซี่เป็นประจำทุกเดือนจะช่วยให้ทุกคนในทีมมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรคที่พบ แนวทางการปรับกลยุทธ์ และวางแผนสำหรับเดือนถัดไป และยังเป็นช่วงเวลาที่คุณสามารถสอบถามสิ่งที่คุณอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจจากเอเจนซี่โฆษณา เพื่อเรียนรู้เรื่อง Digital Marketing ต่างๆที่จำเป็นในการทำงานร่วมกับเอเจนซี่โฆษณาของคุณ

ข้อดีอีกหนึ่งข้อ: ในการประชุม ควรมีการพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น การนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ หรือการวางแผนในการทดลองแคมเปญใหม่ นอกจากนี้ การสื่อสารระหว่างทีมของคุณและเอเจนซี่อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น

สรุปแนวทางการจ้างเอเจนซี่โฆษณา

การจ้างเอเจนซี่โฆษณาให้คุ้มค่าไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงินแล้วคาดหวังผลลัพธ์ แต่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เสมือนเอเจนซี่โฆษณาเป็นทีมการตลาดของคุณ การวางแผนอย่างละเอียด ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะเจาะจง ทำงานร่วมกับเอเจนซี่เพื่อค้นหารูปแบบโฆษณาที่เหมาะสม ติดตามผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงการปรับกลยุทธ์ผ่านการประชุมอย่างต่อเนื่อง หากคุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้ได้ การจ้างเอเจนซี่โฆษณาจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ และคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน

คำแนะนำอื่นๆเพิ่มเติม สำหรับการจ้างเอเจนซี่โฆษณา

1. ประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา: ตรวจสอบประสบการณ์ของเอเจนซี่ และผลงานที่คล้ายคลึงกับสินค้าหรือธุรกิจของคุณ
2. ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: เลือกเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญในสื่อหรือแพลตฟอร์มที่คุณต้องการ เช่น เอเจนซี่ที่เป็น Premier Google Partner 
3. การสื่อสารและความโปร่งใส: เอเจนซี่ที่ดีควรสื่อสารชัดเจน โปร่งใส และให้ข้อมูลที่ครบถ้วน
4. งบประมาณที่ยืดหยุ่น: เลือกเอเจนซี่ที่สามารถปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับงบประมาณของคุณได้

SMEJUMP เป็นเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Premier Google Partner มีความเชี่ยวชาญการทำโฆษณา Google Ads ให้ธุรกิจมามากว่า 10 ปี เราทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ด้วยทีมงานมืออาชีพ การทำงานชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้