Boost Post กับ Facebook Ads แตกต่างกันอย่างไร
ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการที่ผู้ยิงแอดควรทำความเข้าใจก่อนเลือกวิธียิงแอด
Boost Post กับ Facebook Ads แตกต่างกันอย่างไร
การทำการตลาดบน Facebook ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในฟีเจอร์ที่หลายคนมักสงสัยคือความแตกต่างระหว่าง Boost Post และ Facebook Ads ซึ่งแม้ทั้งสองจะมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการมองเห็น (Visibility) และสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการที่ผู้ยิงแอดควรทำความเข้าใจก่อนเลือกวิธียิงแอดเฟซบุ๊กสำหรับธุรกิจของคุณ
SMEJUMP บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ขอนำเสนอบทความเพื่ออธิบายถึง Boost Post และ Facebook Ads ในเชิงลึก พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับเป้าหมายของธุรกิจ
Boost Post คืออะไร
Boost Post คือฟีเจอร์ของ Facebook ที่ช่วยให้คุณโปรโมตโพสต์บนเพจของคุณอย่างง่ายดาย เพียงคลิกปุ่ม “Boost Post” และทำตามขั้นตอนไม่กี่ขั้นตอน คุณก็สามารถเพิ่มการมองเห็นโพสต์ให้ไปถึงผู้ใช้งานในกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านโฆษณาหรือการตั้งค่าที่ซับซ้อน นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำผ่านแอป Facebook บนมือถือหรือแท็บเล็ตได้อย่างสะดวก
มีประโยชน์อย่างไร
- เพิ่มการมองเห็น: ช่วยให้โพสต์ของคุณปรากฏต่อสายตาของผู้ใช้งานในกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้มากขึ้น เช่น แฟนเพจหรือผู้ที่มีลักษณะตรงตามความสนใจ
- สร้างการมีส่วนร่วม: เพิ่มจำนวนไลก์ คอมเมนต์ และการแชร์ในโพสต์ ทำให้เพจดูน่าสนใจและมีชีวิตชีวา
- ใช้งานง่าย: ไม่มีขั้นตอนซับซ้อน เพียงกำหนดกลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ และระยะเวลา
เหมาะกับใคร
Boost Post เหมาะสำหรับ:
- ธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน Facebook Marketing
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องการตั้งค่าซับซ้อน
- ผู้ที่ต้องการโปรโมตคอนเทนต์เฉพาะโพสต์ เช่น โปรโมชั่นรายวัน สินค้าใหม่ หรือกิจกรรมพิเศษ ธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน Facebook Marketing
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องการตั้งค่าซับซ้อน
- ผู้ที่ต้องการโปรโมตคอนเทนต์เฉพาะโพสต์ เช่น โปรโมชั่น สินค้าใหม่ หรือกิจกรรม
ข้อดี
- ใช้งานง่ายและรวดเร็ว
- ไม่ต้องใช้ความรู้ด้านการตลาดเชิงลึก
- ช่วยเพิ่ม Engagement ของโพสต์อย่างเห็นได้ชัด
ข้อเสีย
- มีตัวเลือกการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายจำกัดเมื่อเทียบกับ Facebook Ads
- การวัดผลลัพธ์เชิงลึกไม่ละเอียดเท่ากับโฆษณาเต็มรูปแบบ
- เหมาะกับเป้าหมายระยะสั้นมากกว่า หรือต้องการโปรโมทโพสต์อย่างรวดเร็วในเวลาที่ไม่สะดวกจะใช้ Facebook Ads
Facebook Ads คืออะไร
Facebook Ads เป็นระบบการโฆษณาแบบเต็มรูปแบบของ Facebook ที่ให้คุณสามารถสร้างแคมเปญโฆษณาได้อย่างละเอียดและมีตัวเลือกมากมาย คุณสามารถกำหนดเป้าหมาย แพลตฟอร์ม และวัตถุประสงค์ของโฆษณาได้ตามต้องการ เช่น การเพิ่มยอดขาย การสร้างการรับรู้ หรือการเพิ่มผู้ติดตามเพจ การใช้งาน Facebook Ads จำเป็นต้องทำผ่านเบราว์เซอร์ เช่น Google Chrome, Edge หรือ Safari ซึ่งแนะนำให้ใช้งานผ่าน Notebook หรือ PC เพื่อความสะดวกและสามารถตั้งค่าโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
มีประโยชน์อย่างไร
- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก: สามารถวัดผลลัพธ์ของแคมเปญได้อย่างละเอียดผ่าน Facebook Ads Manager
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด: มีตัวเลือกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เช่น อายุ เพศ ความสนใจ พฤติกรรม และตำแหน่งที่ตั้ง
- สร้างโฆษณาหลายรูปแบบ: รองรับโฆษณาในหลายรูปแบบ เช่น รูปภาพ วิดีโอ สไลด์โชว์ และคอลเลคชั่น
เหมาะกับใคร
Facebook Ads เหมาะสำหรับ:
- ธุรกิจที่มีความซับซ้อน หรือขนาดกลางถึงใหญ่
- ผู้ที่ต้องการแคมเปญที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว
- นักการตลาดมืออาชีพ ที่ต้องการควบคุมและปรับแต่งโฆษณาอย่างละเอียด
ข้อดี
- กำหนดเป้าหมายและงบประมาณได้ยืดหยุ่น
- สามารถสร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์เป้าหมายที่หลากหลาย
- วัดผลและปรับปรุงโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อเสีย
- มีความซับซ้อนในการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- ต้องใช้เวลาในการวางแผนและติดตามผล
- ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่า Boost Post หากไม่บริหารจัดการอย่างเหมาะสม (โดยปกติการ Boost Post จะเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบกว้างๆ ซึ่งทำให้ค่าโฆษณาถูกกว่ากรทำโฆษณาด้วย Facebook Ads)
เปรียบเทียบความแตกต่าง Boost Post vs. Facebook Ads
หัวข้อ | Boost Post | Facebook Ads |
---|---|---|
การใช้งาน | ง่ายและรวดเร็ว | ซับซ้อนแต่ปรับแต่งได้ละเอียด |
วัตถุประสงค์ | เพิ่ม Engagement และ Reach | รองรับหลายเป้าหมาย เช่น Conversion, Traffic, Engagement และ Reach |
การกำหนดเป้าหมาย | จำกัดในกลุ่มเป้าหมายพื้นฐาน ไม่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียด | กำหนดเป้าหมายได้ละเอียดมาก |
การวัดผล | มีข้อมูลพื้นฐาน อาจจะดูผลลัพธ์ได้ยากกว่า | รายละเอียดเชิงลึกและครบถ้วน |
งบประมาณ | เริ่มต้นต่ำ แต่มีค่าชาร์จเพิ่มเติมจาก Apple Store ถ้าคุณทำบนระบบ iOS | ยืดหยุ่นและปรับได้ตามเป้าหมาย |
สรุป 5 เหตุผลทำไม Facebook Ads ดีกว่า การ Boost Post
- ความยืดหยุ่นในการตั้งเป้าหมาย: Facebook Ads รองรับการตั้งเป้าหมายที่หลากหลาย เช่น การเพิ่มยอดขาย การติดตั้งแอปพลิเคชัน การส่งข้อความ การส่งคนไปที่เว็บไซต์ หรือ การสร้างคอนเวอร์ชั่น
- การกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง: คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดกว่าทั้งในแง่ของพฤติกรรม ความสนใจ และตำแหน่งที่ตั้ง เช่น การสร้างกลุ่มเป้าหมาย Lookalike ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ที่กดถูกใจเพจ หรือ Remarketing กลุ่มคนที่เคยเข้ามาในเว็บไซต์ หรือเคยส่งข้อความเข้ามาในกล่องข้อความ
- การวัดผลลัพธ์ที่แม่นยำ: Ads Manager ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยในการวิเคราะห์และปรับปรุงโฆษณา เช่น การแสดงค่า CTR (Click-Through Rate) เพื่อวัดอัตราการคลิกโฆษณาต่อการแสดงผล หรือ Conversion Rate ที่แสดงผลลัพธ์ของการกระทำที่สำคัญ เช่น การซื้อสินค้า ทั้งนี้ยังสามารถแยกดูข้อมูลรายกลุ่มเป้าหมายเพื่อปรับปรุงโฆษณาได้อย่างแม่นยำ ระบบมีการแสดงข้อมูลเมตริกในหลายมุม เช่น การมีส่วนร่วม การรับชมวิดีโอ การส่งโฆษณาและคลิก นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งรายงานตามผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้อีกด้วย
- รองรับโฆษณาหลากหลายรูปแบบ: เช่น วิดีโอ คอลเลคชั่น และโฆษณาแบบ Dynamic คุณสามารถสร้างโฆษณาได้หลายรูปแบบในตัวระบบ Facebook Ads โดยไม่จำเป็นต้องโพสต์บนหน้าเฟซบุ๊กเพจ
- ประสิทธิภาพระยะยาว: Facebook Ads เหมาะสำหรับการสร้างแคมเปญระยะยาวที่ช่วยเสริมสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขาย ถ้าคุณวางแผนทำการตลาดบน Facebook ในระยะยาว การใช้ Facebook Ads จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามาก ทั้งความแม่นยำในการยิงแอด และการปรับปรุงพัฒนาการโปรโมทในอนาคต
ตอบคำถาม: จริงหรือไม่ Boost Post ยิงแอดได้แม่นกว่า
คำตอบคือ ไม่จริง Boost Post เหมาะสำหรับการเพิ่มการมองเห็นและ Engagement ของโพสต์ในระยะสั้น แต่การกำหนดเป้าหมายยังค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับ Facebook Ads หากคุณต้องการการยิงแอดที่แม่นยำ การใช้ Facebook Ads จะตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากมีเครื่องมือในการวิเคราะห์และตั้งค่าเป้าหมายที่หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะยิงแอดในช่องทางไหน โฆษณาก็จะนำไปแข่งขันกัน เพราะระบบโฆษณา Facebook เป็นระบบประมูล ดังนั้นผลลัพธ์ของโฆษณาจะอยู่ที่คุณภาพของตัวโฆษณา และผลตอบรับจากผู้เห็นโฆษณา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธียิงแอด
สรุป 5 สิ่งที่ Facebook Ads ทำได้ แต่ Boost Post ทำไม่ได้
- สร้างแคมเปญแบบ Conversion-Focused เช่น เพิ่มยอดขายในเว็บไซต์ วิธีนี้คุณจำเป็นต้องวาง Pixel ที่เว็บไซต์ และสร้าง Conversion ที่คุณต้องการ ซึ่งการ Boost Post บนมือถือหรือแท็บเล็ตไม่สามารถทำได้
- ตั้งค่าการ Remarketing เพื่อดึงดูดลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ คล้ายกับข้อที่ 1 คุณจำเป็นต้องวาง Pixel ที่เว็บไซต์ และสร้างกลุ่มเป้าหมาย Remarketing ในระบบ Facebook Ads ซึ่งฟีเจอร์นี้ไม่มีใน Boost Post
- กำหนดเป้าหมายเชิงลึก เช่น พฤติกรรมการซื้อออนไลน์ คนที่เคยซื้อสินค้า คนที่เลือกสินค้าอยู่ในตะกร้าแต่ยังไม่ชำระเงิน หรือคนที่เคยส่งข้อความเข้ามาในกล่องข้อความ
- ใช้งานโฆษณาแบบ Dynamic Ads ที่ปรับเปลี่ยนเนื้อหาโดยอัตโนมัติตามความสนใจของผู้ใช้ เช่นการทำ Catalog Ads ที่โฆษณาแสดงสินค้าหลากหลายแบบจาก Catalog โดยอ้างอิงจากความสนใจของกลุ่มเป้าหมายแต่ละคน
- วางแผนและติดตามผลลัพธ์ระยะยาว อย่างมีประสิทธิภาพ ในตัวระบบ Facebook Ads มีข้อมูลและรายงานที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ผลลัพธ์โฆษณา และเห็นแนวทางปรุงปรุงการยิงแอดในระยะยาว
ค่าใช้จ่าย: ค่าชาร์จเพิ่มเติมเมื่อ Boost Post บน iOS
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายคือ การ Boost Post บนแอป Facebook ผ่านอุปกรณ์ iOS จะมี ค่าชาร์จเพิ่มเติม จาก Apple ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของ Apple ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% สำหรับการทำธุรกรรมในแอปพลิเคชัน หากคุณเลือก Boost Post ผ่าน iOS ค่าใช้จ่ายรวมจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ Facebook Ads ผ่านเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มอื่น
ทางเลือกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
- ใช้ Facebook Ads Manager ผ่านเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์หรือแอปบน Android เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- ตรวจสอบค่าใช้จ่ายอย่างละเอียดก่อนยืนยันการชำระเงิน โดยเฉพาะเมื่อใช้อุปกรณ์ iOS
การเข้าใจในส่วนนี้จะช่วยให้คุณวางแผนงบประมาณได้ดียิ่งขึ้นและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมของ Apple สามารถอ่านได้ที่ Meta Business Help Center
สรุป: Boost Post กับ Facebook Ads แตกต่างกันอย่างไร
ทั้ง Boost Post และ Facebook Ads มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของธุรกิจ ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการโปรโมตสินค้าใหม่ในช่วงเวลาสั้นๆ การใช้ Boost Post อาจเหมาะสมกว่าเนื่องจากความสะดวกและรวดเร็ว
แต่หากคุณเป็นธุรกิจที่ต้องการวางแผนการตลาดระยะยาว เช่น การเพิ่มยอดขายออนไลน์หรือสร้างการรับรู้แบรนด์ การใช้ Facebook Ads จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายได้แม่นยำและปรับปรุงโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
หากคุณต้องการเพิ่ม Engagement และความสะดวก Boost Post อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ระยะยาว Facebook Ads ย่อมเป็นคำตอบที่ดีกว่า เพราะทำให้คุณยิงแอดได้แม่นยำกว่า และการใช้งานของตัวระบบสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ Facebook Ads ในการทำโฆษณาธุรกิจของคุณ
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ