หนังสือการตลาดขายดี Contagious

หนังสือ “Contagious: Why Things Catch On” โดย Jonah Berger

หนังสือการตลาดขายดี Contagious

หากคุณกำลังมองหาหนังสือที่ช่วยให้คุณเข้าใจถึงวิธีการสร้างเนื้อหา สินค้า หรือบริการที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว หนังสือ “Contagious: Why Things Catch On” โดย Jonah Berger เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด หนังสือเล่มนี้เจาะลึกถึงหลักการเบื้องหลังของการทำให้บางสิ่ง “กลายเป็นไวรัล” ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกและการยกตัวอย่างที่น่าสนใจ

ซึ่งคุณสามารถนำมาปรับใช้กับการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจออนไลน์ SMEJUMP บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ขอนำเสนอบทความนี้ เพื่อสรุปเนื้อหาเด่น ๆ จากหนังสือ พร้อมแนะนำวิธีนำไปใช้กับธุรกิจ SME และเทคนิคการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทธุรกิจของคุณ


สรุปเนื้อหาเด่นจากหนังสือ Contagious

Jonah Berger เป็นศาสตราจารย์ด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียและผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค เขานำเสนอหลักการที่เรียกว่า STEPPS ซึ่งประกอบด้วย 6 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บางสิ่งบางอย่างกลายเป็นไวรัล ได้แก่:

1. Social Currency (สกุลเงินทางสังคม)

  • ผู้คนแชร์สิ่งที่ทำให้พวกเขาดูดีหรือเป็นที่ยอมรับในสังคม เช่น ความรู้พิเศษ ข้อมูลลับ หรือประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
    ตัวอย่างในหนังสือ: ร้านอาหารลับในนิวยอร์กที่มีเมนูพิเศษที่ไม่มีในร้านทั่วไป ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษเมื่อได้แชร์ประสบการณ์นี้กับคนอื่น
    การประยุกต์ใช้กับ SME: ธุรกิจสามารถสร้าง “ความลับ” หรือ “สิทธิพิเศษ” ให้กับลูกค้า เช่น โปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก หรือผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายจำนวนจำกัด รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ที่มีข้อมูลหรือเคล็ดลับเฉพาะกลุ่มที่เป็นประโยชน์ เช่น วิธีแก้ปัญหาเฉพาะทางที่น้อยคนรู้ ซึ่งจะกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายอยากแชร์ต่อไปยังเพื่อนหรือคนในเครือข่าย

2. Triggers (ตัวกระตุ้น)

  • การเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์หรือเนื้อหาของคุณกับสิ่งที่ผู้คนพบเห็นหรือได้ยินในชีวิตประจำวัน นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม แบรนด์ใหญ่มักจ้างดารา หรือคนมีชื่อเสียงมาเป็น presentor ของสินค้า เมื่อลูกค้าเห็นดารา ก็จะกระตุ้นให้นึกถึงแบรนด์เหล่านั้น
    ตัวอย่างในหนังสือ: เพลง “Friday” ที่กลายเป็นไวรัลเพราะถูกเชื่อมโยงกับวันศุกร์
    การประยุกต์ใช้กับ SME: ใช้เหตุการณ์หรือวันสำคัญ เช่น เทศกาลหรือช่วงเวลาพิเศษ เพื่อสร้างแคมเปญที่เชื่อมโยงกับธุรกิจ หรือจับเอาสิ่งรอบตัวที่ลูกค้ามันเห็นอยู่ทุกวัน นำมาโยงกับแบรนด์ของคุณ และนำเสนออย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ของคุณ ทุกครั้งที่เขาเห็นสิ่งรอบตัวเหล่านั้น

3. Emotion (อารมณ์)

  • เนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น ความตื่นเต้น ความสุข หรือความโกรธ มักถูกแชร์มากขึ้น
    ตัวอย่างในหนังสือ: โฆษณาที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจและอยากแบ่งปัน
    การประยุกต์ใช้กับ SME: สร้างเนื้อหาที่ส่งเสริมคุณค่าทางอารมณ์ เช่น เรื่องราวความสำเร็จของลูกค้า หรือคอนเทนต์ที่เล่นกับความรู้สึกเชิงบวก เช่น ความดีใจ ปลื้มใจ หรือประทับใจ เพื่อช่วยกระตุ้นการจดจำแบรนด์ และเพิ่มโอกาสในการบอกต่อในกลุ่มผู้ติดตาม

4. Public (ความเป็นสาธารณะ)

  • สิ่งที่มองเห็นได้ง่ายในที่สาธารณะมักถูกเลียนแบบ เช่น โลโก้เด่นชัด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีสีสันโดดเด่น หรือสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การทำให้สินค้าหรือแคมเปญของคุณมีความน่าจดจำในพื้นที่สาธารณะไม่เพียงแต่ช่วยดึงดูดความสนใจ แต่ยังสร้างการจดจำแบรนด์ในระยะยาว เช่น สินค้าที่มีโลโก้โดดเด่น
    ตัวอย่างในหนังสือ: การใช้ริบบิ้นสีชมพูเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
    การประยุกต์ใช้กับ SME: ออกแบบผลิตภัณฑ์หรือแคมเปญที่มีเอกลักษณ์และสื่อความหมายได้ทันที

5. Practical Value (คุณค่าที่ปฏิบัติได้จริง)

  • ผู้คนแชร์สิ่งที่มีประโยชน์หรือช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างคุณค่าให้กับผู้รับสาร เช่น การช่วยประหยัดเวลา การให้ข้อมูลที่เข้าใจง่าย หรือการเสนอทางออกที่จับต้องได้ในชีวิตจริง การแชร์เนื้อหาเหล่านี้ยังช่วยให้ผู้แชร์รู้สึกมีบทบาทในกลุ่มสังคมของตนเอง และส่งเสริมภาพลักษณ์ว่าเป็นผู้ที่มีข้อมูลหรือความสามารถในการแก้ปัญหา
  • ตัวอย่างในหนังสือ: วิดีโอแนะนำการใช้ฟอยล์ห่ออาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
    การประยุกต์ใช้กับ SME: สร้างเนื้อหา How-to ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เช่น วิธีการใช้งานหรือเคล็ดลับในการดูแลผลิตภัณฑ์

6. Stories (เรื่องราว)

  • การเล่าเรื่องที่น่าสนใจสามารถทำให้ข้อมูลสำคัญถูกจดจำและแชร์ต่อ เพราะเรื่องราวมักจะสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟัง ทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมและเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การเล่าเรื่องยังช่วยให้ข้อมูลมีโครงสร้างที่ชัดเจนและน่าติดตาม ซึ่งส่งผลต่อการจดจำในระยะยาว
    ตัวอย่างในหนังสือ: เรื่องราวของคนที่ได้รับผลลัพธ์ดี ๆ จากผลิตภัณฑ์
    การประยุกต์ใช้กับ SME: เล่าเรื่องราวเบื้องหลังธุรกิจ หรือความสำเร็จของลูกค้าที่ใช้บริการ

จุดเด่นของหนังสือ Contagious

  1. การนำเสนอหลักการที่เข้าใจง่าย: STEPPS เป็นกรอบแนวคิดที่ชัดเจนและสามารถนำไปใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในการสร้างคอนเทนต์สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ การเล่าเรื่องที่สอดคล้องกับแบรนด์และเนื้อหาที่มีคุณค่า ช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายจดจำได้ง่ายขึ้น และยังเพิ่มโอกาสที่แบรนด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในความคิดของผู้บริโภค
  2. ตัวอย่างที่หลากหลาย: หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยกรณีศึกษาจากธุรกิจต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น และบางตัวอย่างอาจจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจของผู้อ่าน ทำให้สามารถนำไปปรับใช้ หรือได้ไอเดียใหม่ในการทำคอนเทนต์
  3. เหมาะสำหรับทุกระดับธุรกิจ: ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาดมือใหม่หรือมืออาชีพ หนังสือเล่มนี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ อีกทั้งยังแสดงกรอบแนวคิดในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับงานหลายรูปแบบ

ใครควรอ่านหนังสือเล่มนี้:

  • ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเพิ่มการรับรู้แบรนด์
  • นักการตลาดที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคการสร้างแคมเปญไวรัล
  • ผู้ที่สนใจพฤติกรรมผู้บริโภคและจิตวิทยาการตลาด

วิธีนำแนวคิดใน Contagious ไปใช้ในธุรกิจ SME

  1. สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า: เน้นให้ความรู้หรือสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า
  2. ใช้ตัวกระตุ้นอย่างชาญฉลาด: ออกแบบแคมเปญที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของลูกค้า เพื่อกระตุ้นการจดจำโยงกลับไปที่แบรนด์
  3. เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์: สร้างประสบการณ์หรือผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและน่าจดจำ (นึกถึงการใช้สี และโลโก้ ของธุรกิจธนาคารไทย)
  4. เล่าเรื่องราว: ใช้เรื่องราวของลูกค้าหรือธุรกิจเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ นำเสนอคอนเทนต์แนวการเล่าเรื่องที่มีโครงสร้าง ช่วยสร้างการจดจำ
  5. เน้นการแชร์: สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าแชร์เนื้อหาหรือผลิตภัณฑ์ของคุณ การแชร์คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดไวรัลคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย

5 เทคนิคการใช้โซเชียลมีเดียโปรโมทธุรกิจ SME

  1. สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและแชร์ง่าย: ใช้ภาพและวิดีโอที่ดึงดูดใจ พร้อมคำบรรยายที่กระชับและโดนใจ
  2. ใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สด: ถ่ายทอดเบื้องหลังธุรกิจหรือกิจกรรมพิเศษเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม
  3. วางแผนการโพสต์ที่เหมาะสม: โพสต์ในเวลาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณออนไลน์มากที่สุด
  4. ใช้ Influencers: ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทสินค้า
  5. ตอบสนองอย่างรวดเร็ว: สร้างความประทับใจด้วยการตอบกลับคำถามและความคิดเห็นของลูกค้าอย่างรวดเร็ว

แนะนำหนังสือการตลาดและ Digital Marketing ที่น่าสนใจ

  1. “Building a StoryBrand” โดย Donald Miller – หนังสือที่นำเสนอกรอบแนวคิดในการเล่าเรื่องเพื่อสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ด้วยวิธีการที่ช่วยให้แบรนด์สื่อสารได้ชัดเจน เข้าใจง่าย และตรงประเด็น หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมโยงแบรนด์กับลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
  2. “This Is Marketing” โดย Seth Godin – หนังสือที่นำเสนอแนวคิดการตลาดที่เน้นการสร้างคุณค่าแทนการขายแบบเดิม ๆ ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การระบุเป้าหมาย การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และการสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน
  3. “Influence: The Psychology of Persuasion” โดย Robert B. Cialdini – หนังสือที่เจาะลึกหลักจิตวิทยาเบื้องหลังการชักจูงใจ ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจวิธีการที่ผู้คนถูกโน้มน้าวด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ การยอมรับทางสังคม และความสัมพันธ์ส่วนตัว เป็นคู่มือสำคัญสำหรับการตลาด การขาย และการสื่อสาร
  4. “Jab, Jab, Jab, Right Hook” โดย Gary Vaynerchuk – หนังสือที่อธิบายถึงการสร้างเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียที่เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม การใช้กลยุทธ์ในการให้คุณค่าแก่ผู้ติดตามก่อนนำเสนอขาย และวิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
  5. “The 1-Page Marketing Plan” โดย Allan Dib – หนังสือที่ช่วยให้การวางแผนการตลาดไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ด้วยการแนะนำวิธีจัดทำแผนในรูปแบบที่กระชับและเข้าใจง่าย มุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ซับซ้อน

สรุป: หนังสือการตลาดขายดี Contagious

หนังสือ “Contagious” ไม่เพียงแต่เป็นคู่มือสำหรับการตลาด แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ธุรกิจ SME สามารถนำหลักการ STEPPS ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในตลาดได้อย่างแน่นอน พร้อมกับการใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการโปรโมทธุรกิจ

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

    ชื่อ-สกุล
    มือถือ
    E-Mail
    ข้อความ


    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน

    ข้อมูลบริษัท

    บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

    79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

    เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

    Email: contact@smejump.com

    Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

    LINE : @smejump

    จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

    เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ