ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูล Google Ads : ทำไมโฆษณาไม่อยู่อันดับแรกๆ?

สำหรับผู้ที่ทำ Google Ads ที่พบการแข่งขันสูง และโฆษณาไม่ค่อยแสดงในคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่เน้นการค้นหา (Search Ads) อย่างการสร้างแคมเปญโฆษณาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ทำโฆษณาจำเป็นต้องเข้าใจ และใช้ ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูล (Auction Insights) เพื่อปรับปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง และต่อสู้กับคู่แข่งที่ประมูลโฆษณาในตลาดเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ Google Ads จึงพัฒนาเครื่องมือนี้เพื่อช่วยให้นักการตลาดสามารถวิเคราะห์การแสดงผลและประเมินตำแหน่งของตนเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้จะลงรายละเอียดว่าข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลคืออะไร มีตัวชี้วัดอะไรบ้างที่สำคัญ และประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้เครื่องมือนี้ในการวางกลยุทธ์การโฆษณา ซึ่ง SMEJUMP ผู้ที่ให้บริการทำโฆษณา Google Ads ก็ใช้ข้อมูลนี้เป็นแนวทางในการปรับแต่งโฆษณาให้ชนะคู่แข่ง

ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูล Google Ads คืออะไร?

ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูล (Auction Insights) เป็นเครื่องมือที่มีอยู่ใน Google Ads ซึ่งเก็บข้อมูลการทำโฆษณาในคีย์เวิร์ดที่เราใช้ และช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถเปรียบเทียบการแสดงผลโฆษณาของตัวเองกับโฆษณาจากคู่แข่งในตลาดเดียวกัน

ซึ่งเครื่องมือนี้จะแสดงข้อมูลในเชิงสถิติของแคมเปญ หรือกลุ่มโฆษณาที่เลือกใน 6 ตัวชี้วัดสำคัญ ทำให้นักการตลาดสามารถเห็นถึงตำแหน่งและประสิทธิภาพของโฆษณาของตนว่าเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของอัตราการแสดงผล ส่วนแบ่งการแสดงผล หรืออัตราการปรากฏบนตำแหน่งต่าง ๆ ของหน้า

โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถวางแผนกลยุทธ์และปรับแต่งแคมเปญให้ตอบสนองต่อพฤติกรรมการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ตัวชี้วัด 6 ประการในข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูล

ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลของ Google Ads ประกอบด้วย 6 ตัวชี้วัดหลักที่ช่วยให้ผู้โฆษณาเห็นภาพรวมและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโฆษณากับคู่แข่งได้อย่างแม่นยำ ซึ่งตัวชี้วัดเหล่านี้ ได้แก่:

1. ส่วนแบ่งการแสดงผล (Impression Share)
ส่วนแบ่งการแสดงผลบ่งบอกถึงจำนวนครั้งที่โฆษณาของเราได้แสดงผลเมื่อเทียบกับโอกาสที่สามารถแสดงผลได้ทั้งหมด ค่านี้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ผู้โฆษณานิยมดูบ่อยที่สุด เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงปริมาณการแสดงผลของแคมเปญโฆษณาที่ทำ และเข้าใจได้ง่าย การมีส่วนแบ่งการแสดงผลสูงย่อมหมายถึงโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้สามารถประเมินความสำเร็จของการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. อัตราการแสดงผลพร้อมกัน (Overlap Rate)
ตัวชี้วัดนี้แสดงถึงอัตราที่โฆษณาของเราแสดงพร้อมกับโฆษณาของคู่แข่งในการค้นหาคำหลักเดียวกัน ข้อมูลนี้ทำให้เราเห็นถึงคู่แข่งที่โฆษณาแสดงพร้อมกับเรา โดยปกติแล้วมักใช้ในการดูคู่แข่งรายที่เราสนใจ เพื่อประเมินสถานะและความถี่ในการแสดงผลของพวกเขา เช่น หากอัตราการแสดงผลพร้อมกันสูง หมายความว่าโฆษณาของเรามีการแสดงพร้อมกับคู่แข่งบ่อย ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึงการแข่งขันในตลาดและช่วยในการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมมากขึ้น

3. ส่วนแบ่งการแสดงผลเหนือคู่แข่ง (Outranking Share)

ส่วนแบ่งที่มีอันดับสูงกว่าจะแสดงอัตราที่โฆษณาของคู่แข่งมีอันดับสูงกว่าโฆษณาของเราในการค้นหาเดียวกัน ข้อมูลนี้ทำให้เราเห็นถึงคู่แข่งที่มีการแสดงผลอยู่เหนือเรา โดยปกติแล้วมักใช้ดูคู่แข่งรายที่เราสนใจ ซึ่งอาจหมายความว่าคู่แข่งเหล่านี้มีงบโฆษณาที่มากกว่า หรือตั้งการประมูล (Bid) ที่สูงกว่าเรา ข้อมูลนี้ช่วยให้เราสามารถประเมินระดับความสำเร็จของแคมเปญและปรับปรุงกลยุทธ์การประมูลโฆษณาได้อย่างตรงจุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงผลในอันดับที่ดีกว่า

4. ส่วนแบ่งการแสดงที่ตำแหน่งสูงกว่า (Position Above Rate)
อัตราสำหรับอันดับที่สูงกว่าบ่งบอกถึงอัตราที่โฆษณาของเราปรากฏอยู่ในตำแหน่งด้านบนของหน้าผลการค้นหา ข้อมูลนี้มักใช้ในการประเมินว่าโฆษณาของเราสามารถแสดงอยู่บนส่วนที่โดดเด่นของหน้า Google Search ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวสามารถสร้างการมองเห็นที่สูงขึ้นและเพิ่มโอกาสในการดึงดูดการคลิกได้มากขึ้น การที่โฆษณาของเราอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าจึงช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเรา

5. อัตราการแสดงที่ด้านบนของหน้า (Top of Page Rate)
ตัวชี้วัดนี้แสดงถึงอัตราที่โฆษณาของเราแสดงในตำแหน่งด้านบนของหน้า ซึ่งหมายถึงตำแหน่งที่ 1-4 ของหน้าผลการค้นหา Google Search ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ แสดงให้เห็นว่าโฆษณาของเราสามารถแสดงได้ในตำแหน่งที่โดดเด่นมากเพียงใด และเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ตำแหน่งการแสดงผลของเราอยู่ในระดับใด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของการวางแผนคำหลักและการประมูลของโฆษณา

6. อัตราการแสดงที่ด้านบนสุดแบบสัมบูรณ์ของหน้า (Absolute Top of Page Rate)
อัตราการแสดงผลแบบสัมบูรณ์ บอกถึงอัตราการแสดงผลโฆษณาของเราที่ปรากฏในตำแหน่งบนสุดของหน้า ซึ่งตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดของหน้าและสามารถดึงดูดการคลิกได้มาก ข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ถูกถามถึงบ่อยที่สุด เนื่องจากการแสดงผลในตำแหน่งที่ 1 หรือด้านบนสุดของหน้า Google Search มีความสำคัญอย่างมากในการเพิ่มการเข้าถึงและสร้างการมองเห็นที่โดดเด่น การมีอัตราการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดสูงจึงเป็นสิ่งที่นักโฆษณาหลายคนต้องการเพื่อเพิ่มการเข้าถึงและดึงดูดการคลิกจากผู้ใช้

ประโยชน์ของข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลในการวางกลยุทธ์โฆษณา

การใช้งานข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลนั้นช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถนำข้อมูลมาปรับกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ ของเครื่องมือนี้ ได้แก่:

– ช่วยวิเคราะห์และติดตามความสำเร็จของแคมเปญ
ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลมีประโยชน์อย่างมากในการปรับแต่งแคมเปญ (Google Ads Optimization) ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมว่าโฆษณาของเรามีประสิทธิภาพอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง การติดตามค่าต่าง ๆ เช่น ส่วนแบ่งการแสดงผลและอันดับการแสดง จะทำให้เรามองเห็นว่าโฆษณาได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับแคมเปญให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง

– ช่วยในการวางแผนการประมูลและจัดสรรงบประมาณ
ข้อมูลจากตัวชี้วัดในข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลสามารถช่วยให้ผู้โฆษณาวางแผนการประมูลและจัดสรรงบประมาณได้ดีขึ้น เช่น การเลือกคำหลักที่มีประสิทธิภาพสูง หรือการตัดสินใจเพิ่มหรือลด Bid สำหรับแคมเปญที่ต้องการโฟกัส

ในกรณีที่คุณอยากรู้ว่าควรเพิ่มงบโฆษณาหรือไม่ อาจจะดูจากตัวชี้วัดอย่างเช่น ส่วนแบ่งการแสดงผล ซึ่งถ้าส่วนแบ่งการแสดงผลต่ำ ก็แสดงว่างบโฆษณาอาจจะยังน้อยไป การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จึงมีความสำคัญในการปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

– คาดการณ์และเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของคู่แข่ง
การใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ถึงความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง ข้อมูลเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่ลงโฆษณาในคีย์เวิร์ดที่คุณใช้ ซึ่งคุณอาจจะสามารถเดางบโฆษณาของคู่แข่งได้ โดยดูจากเปอร์เซ็นต์การแสดงผล เปรียบเทียบกับโฆษณาของคุณและงบโฆษณาที่คุณใช้ หากพบว่าคู่แข่งมีการแสดงผลบ่อยหรือได้ตำแหน่งที่สูงกว่าอย่างต่อเนื่อง ผู้โฆษณาสามารถปรับกลยุทธ์การประมูล หรือเพิ่มงบประมาณในการโฆษณา เพื่อรักษาตำแหน่งการแข่งขันในตลาดได้

สรุปข้อมูล Auction Insights

ข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลใน Google Ads ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทำโฆษณาในระดับปานกลางถึงขั้นสูง โดยเฉพาะผู้ที่ทำ Google Ads Optimization ซึ่งต้องการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับแคมเปญโฆษณา เครื่องมือนี้ช่วยให้ผู้โฆษณาเห็นถึงประสิทธิภาพของโฆษณาและสามารถเปรียบเทียบได้ว่าโฆษณาของเรามีการแสดงผลในระดับใดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

การติดตามตัวชี้วัดทั้ง 6 ตัวนี้ ในข้อมูลเชิงลึกด้านการประมูลจะช่วยให้เราปรับปรุงแคมเปญให้ตอบสนองตามเป้าหมาย และยังช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลบริษัท

บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

Email: contact@smejump.com

Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

LINE : @smejump

จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ