หากคุณกำลังยิงแอดแล้วไม่ได้ผล เรามี วิธียิงโฆษณา Facebook ให้ได้ผล มาแนะนำ

วิธียิงโฆษณา Facebook ให้ได้ผล ทำตามวิธีนี้จะช่วยให้แอดของคุณได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

วิธียิงโฆษณา Facebook ให้ได้ผล

วิธียิงโฆษณา Facebook ให้ได้ผล – เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาที่คุณต้องลอง

หากคุณกำลังยิงแอดแล้วไม่ได้ผล เรามีวิธียิงโฆษณา Facebook ให้ได้ผล มาแนะนำ การโฆษณาบนโลกออนไลน์ก็เหมือนการปลูกพืช คุณอาจจะต้องลอง และปรับปรุงแอดอยู่เสมอจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง แต่หากคุณกำลังลองยิงแอดบน Facebook แล้วไม่เห็นผลลัพธ์ที่คุณต้องการ มาเรามีวิธียิงโฆษณาให้ได้ผลให้คุณลอง

วิธียิงโฆษณาบน Facebook ให้ได้ผล เป็นวิธีที่ผมค้นพบ และมันเวิร์คได้ผล จึงนำมาเล่าให้กับคุณฟัง ถ้าคุณทำโฆษณาบน Facebook ด้วยการโปรโมทโพสต์ วีดีโอตัวนี้ น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ สิ่งที่ผมจะเล่าให้คุณฟังในวีดีโอตัวนี้ คุณจำเป็นต้องเคยทำโฆษณาด้วยตัวจัดการโฆษณา หรือ Advert Manager มาก่อน จึงจะเห็นภาพวิธีที่ผมใช้
——————————-

การตั้งค่าชุดโฆษณา (Ad Set) Facebook ให้ได้ผล

การสร้างชุดโฆษณาหลายชุดจะช่วยให้คุณทดสอบ และปรับแต่งเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน  ให้คุณลองตั้งค่าชุดโฆษณาอย่างน้อย 3-4 ชุด โดยแต่ละชุดควรมีเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เช่น

  • แฟนเพจ (Page Fans): กลุ่มผู้ติดตามเพจซึ่งมีแนวโน้มสูงในการมีส่วนร่วมกับโพสต์ของคุณ
  • ลูกค้าทั่วไป (General Audience): กลุ่มคนทั่วไปที่อาจสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณ
  • กลุ่มคน Remarketing: กลุ่มคนที่เคยมีส่วนร่วมกับเพจหรือโพสต์ของคุณมาก่อน โดยใช้ Custom Audience
  • Lookalike Audience: กลุ่มคนที่มีลักษณะคล้ายกับแฟนเพจของคุณ

เทคนิคการโปรโมทโพสต์ในชุดโฆษณา

ในแต่ละชุดโฆษณา แนะนำให้โปรโมทโพสต์ อย่างน้อย 4-7 โพสต์ต่อชุด เพื่อให้ Facebook ได้มีตัวเลือกมากขึ้น ในการเลือกแสดงโพสต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย การทำแบบนี้จะช่วยให้ระบบของ Facebook ประเมินและเลือกโพสต์ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมมากที่สุด ในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งจะช่วยให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพ และได้รับผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

วิธียิงโฆษณา Facebook ให้ได้ผล โดยใช้กลุ่ม Remarketing และ Lookalike

  1. กลุ่ม Remarketing
    กลุ่ม Remarketing คือกลุ่มคนที่เคยเข้ามามีส่วนร่วมในเพจหรือโพสต์ของคุณ คุณสามารถสร้าง Custom Audience โดยเลือกจาก Page Engagement เพื่อเข้าถึงผู้ที่เคยสนใจในเพจของคุณ
  2. กลุ่ม Lookalike
    Lookalike Audience เป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ติดตามในเพจของคุณ วิธีการสร้าง Lookalike นั้นง่ายและรวดเร็ว โดยจะช่วยให้คุณขยายกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับสำคัญสำหรับการตั้งค่าโฆษณาให้ได้ผลสูงสุด

  1. เลือกการเสนอราคาแบบอัตโนมัติ (Auto Bid)
    การเลือกใช้ Auto Bid ตามค่าแนะนำของ Facebook เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้น เนื่องจาก Facebook จะปรับการเสนอราคาให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพของโฆษณาของคุณ
  2. การตั้งค่า Placement
    ควรเลือก Placement ให้ครอบคลุมทุกตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น Facebook Feed, Marketplace, Audience Network เพื่อเพิ่มการเข้าถึง แต่หากสินค้าของคุณไม่เหมาะกับ Instagram คุณสามารถเลือกยกเลิกการแสดงโฆษณาบน Instagram ได้
  3. ตรวจสอบค่าโฆษณาต่อ Engagement
    โดยทั่วไป ค่าโฆษณาต่อ Engagement ไม่ควรเกิน 0.70 บาท หากเกินกว่านี้ ควรพิจารณาปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายหรือสร้างโพสต์ใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

การเลือกประเภทคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

การเลือกคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการยิงโฆษณาบน Facebook ให้ได้ผลดีมากที่สุด เพราะประเภทของคอนเทนต์ที่นำเสนอสามารถส่งผลต่อการมีส่วนร่วม (Engagement) และการกระตุ้นให้เกิดการคลิกซื้อสินค้าหรือบริการ โดยคุณสามารถพิจารณาเลือกประเภทคอนเทนต์ดังนี้:

  1. ภาพนิ่ง (Static Images)
    ภาพนิ่งเหมาะสำหรับการสื่อสารเนื้อหาสั้นๆ ที่เข้าใจได้ง่ายทันที ควรใช้รูปภาพคุณภาพสูงและใส่ข้อความสั้นๆ กระชับ เพื่อดึงดูดให้คนสนใจอ่านเพิ่มเติมหรือกดคลิก ซึ่งเหมาะสำหรับการโฆษณาสินค้าที่ต้องการแสดงรายละเอียดแบบเฉพาะเจาะจง
  2. วิดีโอ (Video Content)
    วิดีโอเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงบน Facebook เนื่องจากสามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างละเอียดและทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมต่อกับแบรนด์มากขึ้น ลองสร้างวิดีโอสั้นๆ ที่เน้นจุดเด่นของสินค้า วิธีการใช้ หรือรีวิวจากลูกค้า โดยควรเน้นความยาวไม่เกิน 1 นาที เพื่อรักษาความสนใจของผู้ชม
  3. สไลด์โชว์ (Slideshow)
    สไลด์โชว์เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีภาพหลายภาพและต้องการนำเสนอในรูปแบบที่เคลื่อนไหว เพื่อแสดงถึงคุณสมบัติหลากหลายของสินค้า สามารถสร้างสไลด์โชว์จากรูปภาพในเวลาไม่กี่วินาที และจะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้
  4. สตอรี่ (Facebook Stories)
    Facebook Stories เป็นคอนเทนต์แบบชั่วคราว (Temporary Content) ที่แสดงผลเพียง 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการโปรโมทแคมเปญเฉพาะกิจ เช่น ส่วนลด, โปรโมชันพิเศษ หรือข่าวสารใหม่ๆ เนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
  5. โพสต์ที่มีข้อความและลิงก์ (Text with Links)
    โพสต์ประเภทนี้เหมาะสำหรับการกระตุ้นให้เกิดการคลิกไปยังหน้าเว็บไซต์หรือเพจที่มีรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม การใช้ข้อความที่มีเนื้อหาดึงดูดใจพร้อมกับลิงก์ไปยังสินค้าหรือบทความ จะช่วยให้เกิดการคลิกและเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ง่ายขึ้น
  6. คอนเทนต์แบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive Content)
    คอนเทนต์ที่ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่น โพล, คำถาม-คำตอบ หรือการทายผล เหมาะสำหรับการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ชมรู้สึกสนุกและจดจำแบรนด์ของคุณได้ดีขึ้น

การตั้งค่าการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพบน Facebook ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด แต่ยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ในโฆษณาของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้มากที่สุด

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน