ตลาดออนไลน์ 2025

การตลาดออนไลน์ 2025 ทำให้ดีกว่า 2024

พวกเรา SMEJUMP เป็นเอเจนซี่รับทำการตลาดออนไลน์ บทความนี้เรานำเสนอแนวทางกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์สำหรับปี 2025 เพื่อช่วยให้ธุรกิจเห็นไอเดียในการทำการตลาดสำหรับสินค้าหรือบริการของคุณ

การตลาดออนไลน์เป็นวิธีการใช้เครื่องมือ และเทคนิคต่างๆ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ และเพิ่มยอดขาย โดยการตลาดออนไลน์มักครอบคลุมช่องทางการทำงานทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมลมาร์เก็ตติ้ง และการทำ SEO โดยในปี 2025 พฤติกรรมของผู้บริโภค และช่องทางออนไลน์ต่างๆ มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น บทความนี้จะอธิบายไอเดียทำการตลาดของเรา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมด้วยกลยุทธ์ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

กลยุทธ์การตลาดที่ 1: การสร้าง Attention ให้ได้มากที่สุดในปี 2025

การดึงดูดความสนใจ (Attention) ของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตลาดออนไลน์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคได้รับข้อมูลจากหลากหลายช่องทางในแต่ละวัน เพื่อสร้างความสนใจที่ยั่งยืน Gary Vaynerchuk กูรูด้าน Digital Marketing กล่าวไว้ว่า “Attention is An Asset” แนวทางการดึงดูดความสนใจนี้ใช้ได้ผลดีมากในปีที่ผ่านมา และเราคิดว่ากลยุทธ์นี้ยังเวิร์คอยู่ในปี 2025

ดังนั้น การทำคอนเทนต์ในปี 2025 จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการให้เหมาะสม โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ การเน้น Attention มากกว่า Reach การเพิ่มความถี่ของคอนเทนต์ และการใช้คอนเซปต์คอนเทนต์ที่มีความชัดเจน

  1. การทำคอนเทนต์เน้น Attention มากกว่า Reach

แม้จำการเข้าถึง (Reach) จะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำการตลาด โดยเฉพาะ Traditional Marketing ที่ต้องการการเข้าถึงจำนวนมากๆ เพื่อทำให้กลยุทธ์การตลาดที่วางไว้ทำงานได้ดี แต่ในปัจจุบันการสร้าง Attention หรือนำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูด ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนใจและเข้าถึงได้ในระดับความรู้สึก มีผลต่อการจดจำแบรนด์ได้มากกว่า เพราะการเข้ามาของ TikTok, Facebook Reels, YouTube Shorts ทำให้ความสนใจของผู้บริโภคถูกดึงดูดหายไปกับวิดีโอสั้นเหล่านั้น 

โดยในการทำ การตลาดออนไลน์ 2025 การเน้น Attention คือการใช้สื่อที่ดึงดูดสายตา เช่น วิดีโอที่มีเนื้อหาเน้นอารมณ์ การเล่าเรื่องราวที่ตรงกับประสบการณ์ของลูกค้า หรือการใช้ภาพที่มีความหมายลึกซึ้ง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหานั้นๆ การเน้นเรื่อง Personalization ทำคอนเทนต์หลากหลายแบบให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นลูกค้ามีส่วนร่วม และดึงดูดความสนใจของพวกเขามากขึ้น

นอกจากนี้ การใช้ภาษาและการคิดคอนเทนต์ที่มีการส่งเสริม Engagement จากผู้ชมจะช่วยให้เกิดการรับรู้เชิงบวกกับแบรนด์ ตัวอย่างเช่น การเปิดโอกาสให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็น การใช้คำถามปลายเปิด หรือการสร้างคอนเทนต์ที่ให้ผู้ชมสามารถร่วมกันคิด และแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับแบรนด์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้การสร้าง Attention เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและยั่งยืน

  1. การทำคอนเทนต์ถี่ขึ้นเพื่อเพิ่มการจดจำในตัวแบรนด์

การทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอและถี่ขึ้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างการรับรู้ในปี 2025 ยิ่งการทำคอนเทนต์เป็นประจำบนแพลตฟอร์มที่ลูกค้าใช้งานมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้แบรนด์มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้สูงขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน Daily Life เช่น โพสต์รายวัน หรือวิดีโอรีวิวสั้นๆ ที่สามารถเพิ่มความถี่ในการโพสต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น

ไอเดียเพิ่มเติมในจากการทำคอนเทนต์ให้ถี่ขึ้น คือ การทำคอนเทนต์อาจจะปรับเนื้อหาตามเทรนด์และเหตุการณ์ปัจจุบัน เช่น เทรนด์ใหม่ๆในวงการ หรือเหตุการณ์ที่กำลังพูดถึงในสังคม เพื่อแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณมีการอัปเดต และทันสมัย ในขณะเดียวกัน คอนเทนต์ที่ถูกเผยแพร่บ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มการรับรู้และความคุ้นเคยในตัวแบรนด์ ทำให้แบรนด์กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคุ้นเคย และเราหวังว่าจะสร้างแนวโน้มที่จะเกิดความภักดีในอนาคต

  1. Concept ของการทำคอนเทนต์

การวางแนวคิด หรือ การคิด Concept ของการทำคอนเทนต์มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งจากการเรียนรู้ในปีที่ผ่านมา Concept ของคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคอนเทนต์ที่มีความจริงใจ (Authentic) เป็นคอนเทนต์แบบเรียลๆ จับต้องได้ และสร้างความใกล้ชิดกับผู้ชม

ดังนั้น เราคิดว่าการตลาดออนไลน์ในปี 2025 การวาง Concept ที่มีการสื่อถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ และแสดงให้เห็นถึงคุณค่า ประสบการณ์จริงของแบรนด์ จะสร้างให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วม และเข้าใจภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น

สิ่งที่สามารถทำเพิ่มเติมสำหรับ Concept คอนเทนต์ คือ เรื่องราว (Storytelling) ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เทคนิคนี้จะช่วยให้คอนเทนต์มีความน่าสนใจ และสร้างความจดจำเรื่องราวที่แบรนด์นำเสนอได้ดี อีกทั้งยังสามารถนำเสนอได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ หรือวิดีโอที่มีความเป็นกันเอง และสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีและจดจำแบรนด์ได้ในระยะยาว

กลยุทธ์การตลาดที่ 2: การสร้างแบรนด์ โดยเน้นผลลัพธ์แบบ Long Term และสร้างเป็น Asset ของบริษัท

ในปี 2025 การตลาดที่ได้ผล ยังมีพื้นฐานหลักคือ การสร้างแบรนด์ที่มั่นคงและยั่งยืน และมองว่ากลยุทธ์การตลาดที่ใช้ เป็นการลงทุนระยะยาว ที่จะส่งผลต่อการตลาดออนไลน์ของคุณในระยะยาวเช่นกัน เพราะแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งไม่เพียงแค่เพิ่มความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริการ แต่ยังเป็น Asset ที่มีมูลค่าทางการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลดีให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทุกคนหันมาทำการตลาดออนไลน์กันหมด การหวังผลระยะสั้นไม่สามารถทำได้ และไม่มีทางยั่งยืน

ดังนั้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในปี 2025 ควรเน้นที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการตอบโจทย์ความต้องการ และค่านิยม ความคิด ความชอบที่เปลี่ยนไปของพวกเขา รวมถึงการปรับปรุงแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ และความชัดเจนในตลาด

การสร้างแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณค่า (Value) และการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างสม่ำเสมอและสอดคล้องกัน เช่น การสร้างเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลสำคัญและเป็นทางการ การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อนำเสนอความเป็นมิตรและใกล้ชิดกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาสามารถไว้ใจและเลือกใช้บริการของแบรนด์ในระยะยาวได้ การทำวิดีโอคอนเทนต์นำเสนอวิธีแก้ปัญหา อธิบายเรื่องที่ซับซ้อนเข้าใจยาก

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งเรื่องคือ การให้ความสำคัญกับความโปร่งใส (Transparency) ในการสื่อสารก็เป็นปัจจัยที่ทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าได้มากขึ้น เช่น การให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง และความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมาในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อถือในตัวแบรนด์ และทำให้แบรนด์กลายเป็นที่จดจำในทางบวก และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน

กลยุทธ์การตลาดที่ 3: การใช้ AI เป็นเครื่องมือในการทำคอนเทนต์มากขึ้น

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยในการทำการตลาดออนไลน์  โดยเฉพาะในปี 2025  การใช้เครื่องมือ AI จะกลายมาเป็นกลยุทธ์สำคัญที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล และการใช้ GenAI ในการสร้างคอนเทนต์ไม่เพียงแค่ช่วยในการทำงานที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ยังช่วยสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

  1. การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับแต่งคอนเทนต์

การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้บนเว็บไซต์ หรือการติดตามการแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย ทำให้แบรนด์สามารถเข้าใจถึงความต้องการ และความชอบของลูกค้าบนโลกออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนักการตลาดออนไลน์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ มาใช้ในการปรับแต่งคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะการทำ Personalized Contents

  1. การใช้ GenAI สร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ 

GenAI สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ทั้งในรูปแบบข้อความ ภาพ และวิดีโอ โดยในปี 2025 คาดว่าจะมีการนำ GenAI มาใช้ชสร้างคอนเทนต์แบบอัตโนมัติอย่างแพร่หลาย เช่น การเขียนบทความ อัปเดตข่าวสาร บทสรุปวิเคราะห์ หรือแม้กระทั่งการออกแบบภาพโฆษณา ซึ่งจะช่วยทำให้แบรนด์สามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมหลายแพลตฟอร์ม และส่งผลให้การสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) และการดึงดูดลูกค้า (Customers’ Attntion) ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างของ GenAI ที่นิยมใช้ในการสร้างคอนเทนต์ เช่น ChatGPT, Midjourney, DALL-E, Runaway Gen-2 เป็นต้น

  1. การใช้ AI ในการสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล (Personalized Experience)

การใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลให้กับลูกค้า เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้การตลาดออนไลน์ประสบความสำเร็จ แบรนด์สามารถใช้ AI ในการแนะนำสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น การแสดงโฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของแต่ละบุคคล ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้รับความสนใจและการบริการที่ตรงใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย และความภักดีในระยะยาว (Customer Loyalty)

เหตุผลที่ Personalize Experience ของลูกค้าจะดีขึ้นในปี 2025 เพราะ การเข้าถึงเครื่องมือ GenAI ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ ภาพ วิดีโอ ได้หลากหลายเวอร์ชั่น ในต้นทุนที่ต่ำและใช้เวลาสั้น ทำให้แบรนด์มีโอกาสในการทดลองเรื่อง Personalization ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป การตลาดออนไลน์ในปี 2025

เป็นการผสมผสานระหว่างการสร้างความสนใจ การสร้างแบรนด์ในระยะยาว และการนำ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญ โดยการทำคอนเทนต์เพื่อดึงดูด Attention การทำคอนเทนต์ที่มีความถี่มากขึ้น และการใช้ Concept ที่ชัดเจนจะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักและจดจำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ที่เน้นผลแบบ Long Term และการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างความยั่งยืนและความสำเร็จให้กับธุรกิจ

เกี่ยวกับ SMEJUMP เรารับทำการตลาดออนไลน์ และ รับทำ Google Ads ครบวงจร ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Premier Google Partner ประจำประเทศไทย

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลบริษัท

บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

Email: contact@smejump.com

Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

LINE : @smejump

จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ