ทำไมไม่ได้ยอดขาย ต้องดู! เหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อ
เหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อ จะมีอะไรบ้าง?
อะไรคือ เหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อ: ปัญหาและวิธีการแก้ไข
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง เจ้าของกิจการหลายคน โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจ SME ที่ไม่ได้มีพื้นฐานด้านการตลาดหรือการขาย มักจะพบกับปัญหาว่าทำไมลูกค้าไม่เลือกซื้อสินค้าหรือบริการของตน อาจเกิดจากความไม่เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเพียงพอ ซึ่งทำให้การปิดการขายเป็นเรื่องยาก
ผู้เขียนซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านรับทำการตลาดออนไลน์ ได้รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายกรณี เพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถนำไปปรับใช้ในกระบวนการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะอธิบายถึงเหตุผลหลักที่อาจทำให้ลูกค้าไม่ซื้อ และแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย
5 เหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อ สินค้าหรือบริการ
เหตุผลข้อที่ 1: ขาดความไว้วางใจ
สาเหตุ: เหตุผลนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อ เพราะในปัจจุบันมีการหลอกลวงทางออนไลน์จำนวนมาก ทำให้ลูกค้ารู้สึกกังวลและระแวงว่าจะถูกหลอก ขาดความมั่นใจในธุรกิจออนไลน์ การขาดข้อมูลรีวิวที่น่าเชื่อถือ การตอบกลับล่าช้า หรือการไม่มีการรับประกันคุณภาพสินค้า ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของลูกค้า
วิธีแก้ไข:
– สร้างความโปร่งใส: ใช้ข้อมูลรีวิวที่แท้จริงจากลูกค้าก่อนหน้า ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจอย่างชัดเจน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ ภาพหน้าร้าน แผนที่ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หรืออาจแสดงภาพการทำงานจริง ภาพการส่งสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ลูกค้าเห็นถึงความโปร่งใสและมั่นใจในธุรกิจของคุณ
– ปรับปรุงการให้บริการ: ตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็ว ข้อมูลครบถ้วน และเต็มไปด้วยความเอาใจใส่ เช่น การตอบแชทคำถามจากลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การมีบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ หรือการมีการรับประกันสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจในบริการและความพึงพอใจของลูกค้า
– การันตีคุณภาพ: เสนอการคืนเงินหากสินค้าไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจในธุรกิจของคุณ
เหตุผลข้อที่ 2: ขาดคุณค่า
สาเหตุ: การสร้างแบรนด์มีผลโดยตรงกับข้อนี้ คุณอาจจะต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์และสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงคุณค่าและความคุ้มค่าของสินค้าหรือบริการของคุณ หากลูกค้าไม่รู้สึกว่าสินค้าหรือบริการของคุณคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป บางครั้งแม้ว่าสินค้าจะดีแต่หากลูกค้าไม่เข้าใจถึงคุณค่า พวกเขาก็จะไม่ตัดสินใจซื้อ
วิธีแก้ไข:
– นำเสนอจุดเด่นของสินค้าหรือบริการ: ระบุและแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติพิเศษที่สินค้าของคุณมีซึ่งแตกต่างจากคู่แข่ง ความแตกต่างสามารถแสดงออกมาได้หลายรูปแบบ เช่น ฟีเจอร์ที่โดดเด่น คุณภาพที่เหนือกว่า ส่วนผสมหรือส่วนประกอบที่พิเศษ หรือการได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามองเห็นคุณค่าที่ชัดเจนและรู้สึกว่าการเลือกซื้อสินค้าของคุณนั้นมีความพิเศษ
– สร้างความรู้สึกคุ้มค่า: เสนอโปรโมชั่นพิเศษ เช่น แพ็กเกจที่มีส่วนลดหรือการเพิ่มของแถม เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ลูกค้ามองหาความคุ้มค่ามากขึ้น เนื่องจากต้องการลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเงิน
– การสื่อสารที่ชัดเจน: การสื่อสารในปัจจุบันทำได้ง่ายและสะดวกกว่าสมัยก่อนมาก เราสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้สื่อการตลาดที่สื่อสารคุณค่าและประโยชน์ของสินค้าอย่างชัดเจน เช่น อินโฟกราฟิกหรือวิดีโอสั้น
เหตุผลข้อที่ 3: ขาดความเร่งด่วน
สาเหตุ: ความเร่งด่วนเป็นเทคนิคที่นักขายมืออาชีพมักใช้ เพื่อช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าหากไม่ตัดสินใจทันที เขาอาจเสียโอกาสหรือพลาดข้อเสนอพิเศษ หากลูกค้าไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องซื้อสินค้าของคุณในขณะนี้ พวกเขามักจะเลื่อนการตัดสินใจออกไป ส่งผลให้เกิดการพลาดการขาย
วิธีแก้ไข:
– ใช้กลยุทธ์โปรโมชั่นที่มีเวลา: กลยุทธ์นี้เป็นสิ่งที่ธุรกิจใช้กันมากที่สุด เช่น การทำ flash sale หรือโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลพิเศษ โดยเสนอโปรโมชั่นที่มีช่วงเวลาจำกัด เช่น ส่วนลดพิเศษที่หมดเขตภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นความรู้สึกเร่งด่วน
– บอกถึงความต้องการที่จำกัด: แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าสินค้ามีจำนวนจำกัด เช่น “มีสินค้าเพียง 10 ชิ้นเท่านั้น!” ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว
– แสดงผลกระทบที่เกิดจากการไม่ซื้อ: วิธีนี้เป็นการเล่นกับความรู้สึกของลูกค้า ทำให้ลูกค้าจินตนาการถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากพวกเขาไม่ตัดสินใจซื้อในตอนนี้ เช่น การเสียโอกาสในการได้ราคาพิเศษหรือพลาดประโยชน์ที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้น
เหตุผลข้อที่ 4: ขาดความชัดเจน
สาเหตุ: สาเหตุนี้มีผลมาจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน หรือบางครั้งเกิดจากการวางกลยุทธ์การตลาดที่ไม่ชัดเจน หากลูกค้าไม่เข้าใจว่าสินค้าหรือบริการของคุณทำงานอย่างไร หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นใช้อย่างไร พวกเขาจะไม่ยอมตัดสินใจซื้อ
วิธีแก้ไข:
– สาธิตการใช้งาน: การใช้วิดีโอเป็นสื่อที่เหมาะสมที่สุด หากคุณต้องการนำเสนอเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก เพื่อสร้างความชัดเจนมากขึ้น ใช้วิดีโอแนะนำการใช้งานหรือวิดีโอสาธิตที่สั้นและเข้าใจง่าย
– จัดทำคู่มือการใช้งานที่ชัดเจน: แนบคู่มือหรือคำแนะนำในรูปแบบที่อ่านง่ายเข้าไปในแพ็กเกจสินค้า ควรใช้เอกสารที่มีการแสดงรูปภาพประกอบ เพื่อช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น คู่มือสรุปวิธีใช้สินค้าแบบง่ายๆ หรือข้อมูลสรุปจุดเด่นของสินค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าใจและใช้งานสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ
– ตอบคำถามที่พบบ่อย: จัดทำ FAQ บนเว็บไซต์หรือช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจการทำงานของสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
เหตุผลข้อที่ 5: ขาดความแตกต่าง
สาเหตุ: เหตุผลข้อนี้แก้ไขได้ยากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อในตลาดมีสินค้าที่คล้ายคลึงกันอยู่เต็มไปหมด คุณต้องสร้างความแตกต่างให้ได้อย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ามีเหตุผลในการเลือกสินค้าหรือบริการของคุณแทนที่จะเป็นของคู่แข่ง
วิธีแก้ไข:
– พัฒนาสินค้าให้มีเอกลักษณ์: การสร้างแบรนด์เป็นอาวุธที่สำคัญที่จะช่วยให้สินค้ามีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง เพราะจะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่แตกต่างเมื่อเห็นว่าเป็นแบรนด์ของคุณ สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีลักษณะเฉพาะตัว เช่น ฟีเจอร์ที่ไม่มีในตลาด
– เน้นเรื่องราวของแบรนด์: ใช้เรื่องราวที่ทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำ เช่น การมีความรับผิดชอบต่อสังคม หรือใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการโยงเรื่องเกี่ยวกับปรัชญาการทำธุรกิจ และจุดเริ่มต้นทำไมถึงผลิตสินค้าตัวนี้ เป็นต้น
– สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ: การสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าจะจดจำได้เป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจ Starbucks เน้นเรื่องประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับในการเข้ามานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน ซึ่งเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ การเพิ่มคุณค่าทางประสบการณ์ เช่น การให้บริการหลังการขายที่เหนือความคาดหมาย หรือการมีชุมชนผู้ใช้ที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
กลยุทธ์เสริมเพื่อเพิ่มยอดขาย
นอกจากการแก้ปัญหาข้างต้นแล้ว เจ้าของกิจการควรใช้กลยุทธ์เสริมอื่นๆ เพื่อเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ได้แก่:
– การตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์: เจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SME จำเป็นต้องปรับตัวในเรื่องออนไลน์เป็นอย่างมาก การใช้เครื่องมืออย่างเช่น ไลฟ์ขายสินค้าใน TikTok หรือบนแพลตฟอร์ม Marketplace เป็นวิธีช่วยในการเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ ใช้ช่องทางที่ลูกค้าของคุณใช้งาน เช่น Facebook หรือ Instagram เพื่อโปรโมตสินค้าอย่างต่อเนื่อง
หรือการเสริมด้วยการทำโฆษณาออนไลน์ โดยการใช้ Google Ads หรือ Facebook Ads คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือจ้างเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ เพื่อช่วยเสริมการตลาดออนไลน์ที่คุณต้องการ
– การใช้ Influencer Marketing: หากธุรกิจของคุณมีงบประมาณเพียงพอ การจ้าง Influencer เพื่อช่วยโปรโมทสินค้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดขาย โดยช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายฐานลูกค้า หรือถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด คุณอาจพิจารณาการทำ personal branding โดยใช้ตัวคุณเองเป็นตัวแทนของแบรนด์ และสร้างฐานผู้ติดตาม เพื่อช่วยโปรโมทสินค้าและธุรกิจของคุณ
– การสื่อสารหลังการขาย: ติดต่อกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเพิ่มโอกาสในการขายซ้ำ
สรุป: เหตุผลที่ลูกค้าไม่ซื้อ
หากคุณสามารถเข้าใจเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อ ก็จะทำให้คุณเห็นวิธีการแก้ไขปัญหาและสิ่งที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติมได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น การเพิ่มยอดขายและทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อขึ้นอยู่กับการเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงและการปรับปรุงวิธีการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ หากเจ้าของกิจการสามารถทำตามวิธีการที่แนะนำนี้ได้ จะช่วยลดอุปสรรคในการขายและเพิ่มยอดขายได้อย่างมั่นคง
แนะนำหนังเกี่ยวกับการตลาดและการขายที่น่าสนใจ:
1. Influence: The Psychology of Persuasion โดย Robert B. Cialdini – เกี่ยวกับหลักการจิตวิทยาที่ช่วยให้ผู้คนตัดสินใจซื้อ
2. Building a StoryBrand โดย Donald Miller – วิธีการสร้างเรื่องราวให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น
3. Start with Why” โดย Simon Sinek – การเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังธุรกิจและการสื่อสารที่มีพลัง
4. Contagious: How to Build Word of Mouth in the Digital Age โดย Jonah Berger – วิธีทำให้สินค้าหรือบริการของคุณถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย
5. Made to Stick: Why Some Ideas Survive and Others Die โดย Chip Heath & Dan Heath – การทำให้ไอเดียและข้อความการตลาดของคุณติดอยู่ในใจของลูกค้า
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ