รู้จัก ประเภทแคมเปญ Google Ads

รู้จัก ประเภทแคมเปญ Google Ads เพื่อวางแผนยิงแอดให้ได้ผล

Google Ads คือหนึ่งในแพลตฟอร์มโฆษณาในโลกออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงผู้คนได้หลากหลาย ครอบคลุมทุกช่วงของเส้นทางลูกค้า (Customer Journey) ตั้งแต่การรับรู้ จนถึงการตัดสินใจซื้อ

แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มยิงแอด Google ได้ การเข้าใจประเภทของแคมเปญต่าง ๆ ใน Google Ads คือสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละประเภทแคมเปญ จะตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

มาดูกันว่า “แคมเปญแบบ Google Ads ไหนเหมาะกับเป้าหมายแบบใด”

---

1. Search Campaign – เข้าถึงคนที่มีความ “ตั้งใจค้นหา” อยู่แล้ว

โฆษณารูปแบบข้อความที่แสดงบนหน้า Google Search

• ใช้ คีย์เวิร์ด (Keyword) เป็นตัวกำหนด

• เน้น Conversion เช่น โทรหา, ส่งข้อความ, กรอกฟอร์ม, สั่งซื้อ

• ตัวอย่างเช่น คำค้น “ร้านทำฟันใกล้ฉัน”, “ซื้อกล้องถ่ายรูป canon”

✅ เหมาะกับ: ธุรกิจเฉพาะทาง, ผู้มีพฤติกรรมค้นหาสินค้า หรือบริการก่อนตัดสินใจ

---

2. Display Campaign – สร้างการรับรู้ด้วยภาพแบนเนอร์

โฆษณาภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว ที่แสดงบนเว็บไซต์ในเครือข่าย Google (GDN)

• เข้าถึงผู้ชมผ่านเว็บไซต์กว่า 3 ล้านเว็บ

• ใช้สำหรับ Brand Awareness หรือ Remarketing

• รองรับภาพนิ่ง, GIF และ Responsive Display Ads

✅ เหมาะกับ: สร้างภาพลักษณ์แบรนด์, สินค้าใหม่, กระตุ้นให้คนกลับมาที่เว็บไซต์อีกครั้ง

---

3. Video Campaign – เล่าเรื่องแบรนด์ผ่านวิดีโอบน YouTube

โฆษณาบน YouTube ทั้งก่อน/ระหว่าง/หลังคลิป รวมถึงใน Shorts

• แบ่งเป็นแบบข้ามได้ (Skippable), ข้ามไม่ได้ (Non-skippable), Bumper 6 วิ

• สร้างการมีส่วนร่วม + เพิ่มผู้ติดตาม YouTube

• คลิกไปยังเว็บไซต์, โหลดแอป หรือกรอกฟอร์มก็ได้

✅ เหมาะกับ: แบรนด์ที่มีคอนเทนต์วิดีโอ, สินค้าที่ต้องอธิบายให้ข้อมูลมากกว่าภาพนิ่ง

---

4. Shopping Campaign – ดันยอดขายให้ร้านออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ

โฆษณาแบบสินค้าโชว์รูปภาพ, ราคา, ร้านค้า บนหน้า Google และแท็บ Shopping

• ไม่ใช้ Keyword แต่ใช้ Product Feed จาก Google Merchant Center

• แสดงเฉพาะสินค้าที่มีรายละเอียด และข่อมูลครบถ้วน

• มีแบบ Standard และ Smart Shopping (ควบรวมเป็น PMax แล้ว)

✅ เหมาะกับ: ธุรกิจ eCommerce ที่มีสินค้าเยอะ และต้องการ Conversion ในทันที

---

5. App Campaign – โปรโมตแอปให้ได้ยอดดาวน์โหลด

โฆษณาเพื่อให้คนดาวน์โหลดแอป หรือใช้งานแอปมากขึ้น

• แสดงโฆษณาบน Search, YouTube, Play Store และ GDN

• ไม่ต้องสร้างโฆษณาเอง ระบบจะดึงข้อมูลจาก App Store ไปสร้างให้

• มีเป้าหมายให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ติดตั้งแอป, ทำกิจกรรมในแอป, สมัครสมาชิก ฯลฯ

✅ เหมาะกับ: ผู้พัฒนาแอป, ธุรกิจที่มีระบบ CRM ผ่านแอป

---

6. Performance Max Campaign (PMax) – ครบทุกช่องทางในแคมเปญเดียว

แคมเปญใหม่ที่ใช้ AI จัดการทุกอย่าง และแสดงโฆษณาได้ทุกแพลตฟอร์ม

• รวมทุกประเภทไว้ในแคมเปญเดียวตั้งแต่ Search, Display, YouTube, Gmail, Maps และอื่นๆ

• ใช้ Asset (ข้อความ, รูป, วิดีโอ) และเป้าหมายเป็นตัวตั้ง

• เหมาะสำหรับสาย Conversion-first

✅ เหมาะกับ: ธุรกิจที่อยาก “ยิงแอดทุกช่อง” แบบประหยัดแรงและเวลา

---

7. Demand Gen Campaign – ปลุกความสนใจบนแพลตฟอร์มโซเชียล

แคมเปญใหม่ แทน Discovery เดิม เน้นโฆษณาภาพ/วิดีโอที่ดู “น่าสนใจ”

• แสดงบน YouTube (รวม Shorts), Discover, Gmail

• ออกแบบเพื่อการ Engagement สูง + การกระตุ้นให้ซื้อ

• มีรูปแบบการ Carousel, วิดีโอหลายชิ้น ฯลฯ

✅ เหมาะกับ: แบรนด์ที่มีคอนเทนต์ภาพ/วิดีโอคุณภาพ และเน้นการมีส่วนร่วม

---

เปรียบเทียบ ประเภทแคมเปญ แบบเข้าใจง่าย 👇

---

ดังนั้นแล้วการเลือกประเภทแคมเปญ Google Ads ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ คือการวางรากฐานสำคัญให้แผนการตลาดออนไลน์ของคุณ หากเลือกถูกตั้งแต่ต้น จะช่วยให้คุณใช้งบโฆษณาได้คุ้มค่า สร้างยอดขาย หรือทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น

---

📌 Tip เพิ่มเติมสำหรับมือใหม่

• เลือก Search ถ้าคุณขายของเฉพาะทาง

• เลือก Display ถ้าคุณอยากให้คน “รู้จักแบรนด์”

• หรือใช้ PMax ถ้าคุณอยากให้ระบบจัดการให้ทั้งหมดแบบอัตโนมัติ

---

หากคุณต้องการเอเจนซี่ที่ช่วยวางแผนแคมเปญ Google Ads อย่างมืออาชีพ

✅ ปรึกษา SME JUMP ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
รับยิงแอด Google