รู้ก่อนได้เปรียบ! แนวโน้ม Influencer Marketing 2025

โลกของ Influencer Marketing มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี 2025 หนึ่งในแนวโน้มที่ชัดเจนคือ การใช้ Micro-influencers และ Nano-influencers เพิ่มขึ้นอย่างมาก เหตุผลที่สำคัญคือ ความสามารถของกลุ่มนี้ในการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด และมีอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ติดตาม ถึงแม้ว่า Influencer เหล่านี้จะไม่ได้มีจำนวนผู้ติดตามจำนวนมากเมื่อเทียบกับ Influencer ในระดับเซเลบริตี้ แต่ผลลัพธ์จากการทำงานกับพวกเขา สามารถสร้างความเชื่อมั่นและ Engagement ที่ลึกซึ้งในกลุ่มฐานผู้ติดตาม ซึ่งช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

SMEJUMP บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ขอนำเสนอบทความเพื่อนำคุณ สำรวจแนวโน้มหลักของ Influencer Marketing ในปี 2025 รวมถึงกลยุทธ์ที่นักการตลาดต้องปรับใช้ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

การเพิ่มขึ้นของ Micro-influencers และ Nano-influencers ในตลาด Influencer Marketing 2025

ทำไม Micro-influencers และ Nano-influencers ถึงมาแรง?

ในยุคที่ผู้บริโภคมองหาความน่าเชื่อถือและความเป็นธรรมชาติ หรือความเรียลของคอนเทนต์ Micro-influencers (ผู้ติดตาม 10,000-50,000 คน) และ Nano-influencers (ผู้ติดตามต่ำกว่า 10,000 คน) จึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากเหล่า Inflencers กลุ่มนี้มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้ติดตาม และมีความสามารถนำเสนอเนื้อหาที่เรียล ธรรมชาติ ถูกใจผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

สิ่งนี้คือจุดเด่นที่สำคัญของการหันมานิยมเลือกใช้ Influencers เหล่านี้ สิ่งที่ทำให้ Micro-influencers และ Nano-influencers มีอิทธิพลคือความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดตาม พวกเขาสื่อสารในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ และผู้ติดตามมักมองพวกเขาเป็น “เพื่อน” มากกว่าบุคคลสาธารณะ ส่งผลให้การแนะนำสินค้าและบริการจากพวกเขามีโอกาสโน้มน้าวกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากกว่า

นอกจากนี้ Micro และ Nano-influencers ส่วนใหญ่จะมีเงื่อนไขในการทำคอนเทนต์ที่ยืดหยุ่นกว่า ซึ่งทำให้การทำงานกับแบรนด์มีความคล่องตัว และมีความรวดเร็วในการสื่อสารตามเป้าหมายทางการตลาดที่แบรนด์กำหนดไว้ และแบรนด์ยังได้คอนเทนต์ที่มีความหลากหลายมากกว่า เพราะสามารถเลือกใช้ Influencers ได้หลากหลายในงบประมาณที่เท่ากัน

ตัวอย่างการใช้งานจริง Indluencer Marketing

1. แบรนด์ความงาม ที่เลือกทำงานกับ Nano-influencers เพื่อโปรโมตสินค้าผ่านการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือ Engagement สูงและการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค เพราะคอนเทนต์ที่ดูธรรมชาติและจริงใจ ประกอบกับการที่ Influencers ได้แชร์ประสบการณ์การใช้จริง
2. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ใช้ Micro-influencers ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านอาหารเพื่อรีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในกลุ่มเป้าหมาย และฐานผู้ติดตามก็มีความเชื่อใจในตัว Influencers จึงทำให้คอนเทนต์ที่นำเสนอได้รับการรับรู้และจดจำได้ดีกว่า

การปรับตัวของตลาด Influencer Marketing ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

การบริหารงบประมาณให้คุ้มค่า

ถึงแม้ว่าแนวโน้มการใช้ Influencers ยังมีความสำคัญที่แบรนด์ใช้เป็นตัวกลางในการนำเสนอข้อมูลไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่นักการตลาดก็ต้องปรับกลยุทธ์ตามสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การลงทุนในการตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ให้ผลตอบแทนสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกทำงานกับ Influencers ที่มีเนื้อหาตรงกับแบรนด์จะช่วยให้แบรนด์ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ในสภาวะที่ต้องการการบริหารงบประมาณอย่างรัดกุม

คำแนะนำสำหรับนักการตลาด:

– เลือก Influencers อย่างชาญฉลาด โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของเนื้อหากับสินค้า โดยดูจากแนวคอนเทนต์ของ Influencers และลักษณะของกลุ่มผู้ติดตาม
– เน้นการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ ดูธรรมชาติ และไม่เน้นการนำเสนอสินค้ามากเกินไป เช่น วิดีโอสั้นที่น่าสนใจสอดแทรกด้วยเรื่องสินค้า หรือ รีวิวสินค้าโดยเน้นไปที่ประโยชน์ที่ผู้ชมจะได้รับ

การเพิ่ม Engagement ผ่านเนื้อหา

Engagement หรือการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ติดตาม คือกุญแจสำคัญในการทำงานร่วมกับ Influencers ให้ประสบความสำเร็จ โดยเน้นไปที่ Influencers ที่สามารถสร้างเนื้อหาที่สร้าง Engagement สูง จะมีคุณค่ามากกว่า Influencers ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากแต่ Engagement ต่ำ

ตัวอย่างเนื้อหาที่ช่วยเพิ่ม Engagement:

– คอนเทนต์เกี่ยวกับ การทดลองใช้สินค้า หรือ การแสดงผลลัพธ์ของสินค้าแบบชัดเจน เช่น การโชว์ Before และ After
– คอนเทนต์เกี่ยวกับ การจัดกิจกรรมหรือแคมเปญที่กระตุ้นการมีส่วนร่วม เช่น การแจกของรางวัล การแข่งขันเกม หรือการโหวต

กลยุทธ์การเลือก Influencers

1. การเริ่มต้นจากการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

เพื่อให้สามารถเลือกใช้ Influencers ได้เหมาะสม สอดคล้องกับแบรนด์ ก่อนจะเลือก Influencers แบรนด์ต้องเข้าใจว่า ลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร? และพวกเขาสนใจเนื้อหาแบบใด การเลือก Influencers ที่เหมาะสมควรพิจารณาจาก:

• ความสอดคล้องระหว่างแนวคอนเทนต์ของ Influencer และตัวตนของแบรนด์
• สไตล์การสื่อสารของ Influencers เช่น การสื่อสารแบบธรรมชาติ  การสื่อสารแนววิชาการ หรือ การสื่อสารแนวบันเทิง ไม่เน้นสาระ เป็นต้น

2. ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

การทำงานกับ Influencers ที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฉพาะ หรือในเรื่องที่เป็นภาพลักษณ์ของ Influencers  ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ตัวอย่างเช่น:

– สินค้าเพื่อสุขภาพ: เลือก Influencers ที่เน้นการดูแลสุขภาพ ฟิตเนส หรือ การออกกำลังกาย
– สินค้าเทคโนโลยี: เลือก Influencers ที่รีวิวอุปกรณ์ไอที หรือนำเสนอคอนเทนต์แนวไอทีและนวัตกรรม

3. การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับ Influencers

ทำไมความสัมพันธ์ระยะยาวถึงสำคัญ?

การทำงานกับ Influencers แบบแคมเปญต่อแคมเปญ ถึงแม้จะง่ายในการบริหารจัดการ แต่ให้ผลลัพธ์ในระยะสั้น ในทางกลับกันการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ช่วยให้แบรนด์และ Influencers สามารถพัฒนาเนื้อหาได้ลึกซึ้งมากขึ้น และยังทำให้ผู้ติดตามเห็นว่า Influencers ทำงานกับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความไว้วางใจและความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ในสายตาของกลุ่มผู้ติดตาม

ตัวอย่างกลยุทธ์ระยะยาว:

– การทำงานกับ Influencers แบบโปรเจกต์ (หนึ่งโปรเจกต์ประกอบด้วยหลายแคมเปญ)
– การเป็นพาร์ทเนอร์กับ Influencers ทำงานร่วมกันในเชิงลึก ร่วมมือกันคิดและพัฒนาแคมเปญที่ต่อเนื่อง

บทสรุป

แนวโน้ม Influencer Marketing 2025 ยังคงเน้นไปที่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเนื้อหาที่มีความจริงใจ การใช้ Influencers ยังคงเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่จำเป็น และเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะส่งเสริมการทำการตลาดออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะ Micro-influencers และ Nano-influencers ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยแบรนด์สร้างความน่าเชื่อถือและการมีส่วนร่วมที่สูงขึ้น

สำหรับนักการตลาด การปรับตัวในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและการบริหารงบประมาณอย่างคุ้มค่าเป็นสิ่งสำคัญ การวางแผนและการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับ Influencers ที่เหมาะสมจะช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2025