คู่มือ เริ่มธุรกิจออนไลน์ สำหรับผู้เริ่มต้น
วิธีเริ่มทำธุรกิจออนไลน์
วิธีเริ่มทำธุรกิจออนไลน์: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น
การเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในยุคดิจิทัลปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเริ่มจากความคิดเล็กๆ หรือมุ่งหวังจะขยายธุรกิจของคุณสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ การเข้าใจหลักการและขั้นตอนที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าตนเองเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น แต่ก็ยังไม่สายไปที่จะเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ หรือปรับธุรกิจของคุณให้อยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น ข้อดีของการทำธุรกิจออนไลน์คือโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มใหม่ๆ เข้ามาอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งนี้เปิดโอกาสให้กับผู้เล่นใหม่ได้เสมอ
จากที่ผู้เขียน SMEJUMP ทำงานในบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ เราขอนำเสนอบทความเพื่อพาคุณเรียนรู้วิธีเริ่มต้นสร้างธุรกิจออนไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
1. การเริ่มต้นสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
1.1 เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการสร้างตัวตน
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจเล็กประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ คือการใช้ตัวตนของเจ้าของธุรกิจเป็นตัวขับเคลื่อนและดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยการแบ่งปันองค์ความรู้และนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่เจ้าของธุรกิจหลายคนมักพบคือความไม่สะดวกใจหรือไม่ชอบการเปิดเผยตัวตนบนโลกออนไลน์ แต่หากคุณมองว่าการสร้างตัวตนออนไลน์เป็น “งาน” ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดและเติบโต การเปลี่ยนมุมมองนี้จะช่วยผลักดันให้คุณพร้อมที่จะลงมือทำ
สิ่งสำคัญในการทำตลาดออนไลน์คือ การดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มคนบนโลกออนไลน์ชอบที่จะดูคอนเทนต์ที่เรียล ธรรมชาติ มากกว่าการดูคอนเทนต์โฆษณา ดังนั้นการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ สามารถช่วยดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าโฆษณาแน่นอน
คำแนะนำ:
– เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น การโพสต์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ ถ้าคุณไม่สะดวกใจที่จะออกหน้ากล้อง ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบภาพหรือบทความแทนได้ อย่าให้ความไม่สะดวกใจมาเป็นข้ออ้างในการไม่ลงมือทำ มองการสร้างคอนเทนต์เป็นหน้าที่ที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจะต้องขับเคลื่อนเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตต่อไป
– อย่ากังวลกับความสมบูรณ์แบบในครั้งแรก เพราะไม่มีใครทำได้ดีตั้งแต่เริ่มต้น เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรู้ด้านการทำคอนเทนต์ตั้งแต่แรก ดังนั้นอย่าให้สิ่งนี้มาเป็นข้ออ้างในการไม่ลงมือทำ การสร้างตัวตนออนไลน์นั้น การลงมือทำสำคัญที่สุด และการค่อยๆ เรียนรู้จากผลลัพธ์จะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาการสร้างตัวตนได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1.2 ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการสร้างคอนเทนต์
การสร้างตัวตนให้มีประสิทธิภาพต้องอาศัยคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ หรือบทความ แต่ละรูปแบบของคอนเทนต์มีข้อดีที่ต่างกัน การทำคอนเทนต์วิดีโอจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่ชอบดูวิดีโอมากกว่าการอ่านโพสต์หรือบทความ
อย่างไรก็ตาม การทำโพสต์ภาพก็มีข้อดีในการสร้างการจดจำและสามารถทำคอนเทนต์ได้ง่ายและรวดเร็วกว่าวิดีโอ ส่วนการทำบทความจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณแสดงบนหน้าแรกของ Google Search ผ่านการทำ SEO ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าบน Google Search ได้เพิ่มมากขึ้น
เครื่องมือที่แนะนำ:
– Tiktok, Facebook, YouTube: แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับการดึงดูดความสนใจของลูกค้าผ่านวิดีโอ โดยคุณสามารถทำคอนเทนต์วิดีโอสั้นแนวตั้ง และแสดงได้ทั้ง 3 แพลตฟอร์ม TikTok, Reels และ Shorts
– Canva หรือ CapCut: โปรแกรมออกแบบและตัดต่อที่ใช้งานง่าย และไม่เสียค่าใช้จ่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
2. ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย
2.1 การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ
เนื่องจากลูกค้าเห็นคอนเทนต์จำนวนมากในแต่ละวัน สิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุดคือคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง พวกเขามักไม่สนใจคอนเทนต์ที่ขายสินค้าตรงๆ ดังนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คุณควรผลิตคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ปัญหาที่พวกเขาเผชิญอยู่ หรือช่วยทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้น คอนเทนต์ที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้จะดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดและช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตัวคุณ
เคล็ดลับในการสร้างคอนเทนต์:
– เน้นเรื่องราวหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น วิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น วิธีประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำงานได้เร็วขึ้น หรือลดต้นทุนของงานที่ทำอยู่ โดยโยงเรื่องราวเข้าไปในสินค้าหรือบริการของคุณ
– ใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่อาจไม่มีทรัพยากรในการทำวิจัยลึกซึ้ง การใช้จินตนาการของเจ้าของธุรกิจในการสร้างคอนเทนต์สามารถอ้างอิงจากประสบการณ์ในการทำงาน สิ่งที่ลูกค้าเคยสอบถาม หรือเหตุการณ์ที่ธุรกิจเคยช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า นอกจากนี้ การนำเรื่องราวที่ลูกค้าเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ประทับใจในสินค้า มาประยุกต์เป็นข้อมูลพื้นฐานในการทำคอนเทนต์ก็จะช่วยสร้างความน่าสนใจได้ดี และทำอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
2.2 ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ
ผู้เชี่ยวชาญ Content Marketing พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ความสม่ำเสมอในการทำคอนเทนต์คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การสร้างตัวตนของธุรกิจประสบความสำเร็จ การทำคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกลุ่มเป้าหมาย
แนวทางปฏิบัติ:
– วางแผนการโพสต์คอนเทนต์ประจำเดือน โดยกำหนดธีมเพื่อเป็นกรอบในการนำเสนอคอนเทนต์ให้ครอบคลุมกับภาพลักษณ์ที่คุณต้องการ และในแต่ละสัปดาห์ให้มีการวางแผนโพสต์ล่วงหน้า เช่น 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
– การทำคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ นอกจากจะสร้างอรรถรสให้กับผู้ติดตามแล้ว ยังทำให้คุณได้มีโอกาสทดลอง เพื่อค้นหารูปแบบคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เช่น วิดีโอรีวิวสินค้า คลิปเบื้องหลังการทำงาน หรือการแชร์เคล็ดลับต่างๆ
3. บ่มเพาะความสัมพันธ์กับลูกค้า
3.1 สร้างความเชื่อมั่นผ่านคอนเทนต์
วิธีที่นำเสนอในบทความนี้เป็นการทำการตลาดออนไลน์ในระยะยาว ด้วยการสร้างตัวตน ขั้นตอนนี้คือการบ่มเพาะกลุ่มผู้ติดตาม เพื่อให้พวกเขาเข้าใจและเห็นคุณค่าในธุรกิจของคุณ กลุ่มคนเหล่านี้อาจจะยังไม่ตัดสินใจซื้อทันที แต่จะคิดถึงธุรกิจของคุณเมื่อพวกเขามีความต้องการซื้อในอนาคต เมื่อลูกค้าเห็นว่าคุณสามารถช่วยแก้ปัญหาหรือให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ พวกเขาจะเริ่มเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของคุณ
สิ่งที่ควรทำ:
– ใช้คอนเทนต์ที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของคุณในสายงาน คอนเทนต์ที่นำเสนออย่างถูกต้องจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าธุรกิจของคุณสามารถแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้เขียนแนะนำให้เจ้าของธุรกิจมีบทบาทสำคัญในการสร้างคอนเทนต์หรือการสร้างตัวตน เพราะผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในสายงานนั้นก็คือเจ้าของธุรกิจเอง
– นอกจากการทำคอนเทนต์แล้ว การมีปฏิสัมพันธ์และการสื่อสารกับลูกค้าก็มีความสำคัญ เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ติดตามรู้สึกได้ว่าธุรกิจของคุณพร้อมที่จะช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่างๆ สิ่งนี้แสดงออกโดยการเอาใจใส่ในการตอบคำถามหรือข้อสงสัยของลูกค้าด้วยความจริงใจ
3.2 ใช้คอนเทนต์ในการบ่มเพาะกลุ่มเป้าหมาย
ตามที่กล่าวข้างต้น กลยุทธ์นี้เป็นการทำการตลาดในระยะยาว คุณอย่าเพิ่งถอดใจถ้ายังไม่มีลูกค้าตัดสินใจซื้อ ในขั้นตอนนี้จะเน้นการบ่มเพาะผู้ติดตาม และหาวิธีค่อยๆ เพิ่มผู้ติดตามให้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยนำเสนอคอนเทนต์ที่ช่วยแก้ปัญหาและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณเข้าใจพวกเขา เช่น เทคนิคการประหยัดเวลาในงาน หรือแนวทางการใช้งานสินค้าของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นลูกค้าจริง
4.1 การสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
ในการตลาดออนไลน์สมัยใหม่ ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่าย พวกเขามักจะศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบจนเกือบมั่นใจแล้วจึงติดต่อผู้ขายเพื่อเลือกและตัดสินใจซื้อ ขั้นตอนที่ผู้เขียนนำเสนอในบทความนี้คือการสร้างกระบวนการทำคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้า ในขั้นตอนนี้ เมื่อลูกค้าที่คุณบ่มเพาะมีความต้องการสินค้า หรือกำลังจะตัดสินใจซื้อ สิ่งที่คุณต้องทำคือการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยคอนเทนต์และภาพลักษณ์ที่คุณได้บ่มเพาะกลุ่มผู้ติดตามมาเป็นเวลานาน
เทคนิคสำคัญ:
– ใช้รีวิวหรือคำรับรองจากลูกค้าคนอื่นที่เคยใช้บริการ นอกจากนี้ การแสดงภาพผลงานการติดตั้งหรือภาพการส่งสินค้าถึงมือลูกค้าจริงยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อ เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ามีความกังวลเกี่ยวกับมิจฉาชีพและการหลอกลวงบนโลกออนไลน์
– นำเสนอโปรโมชั่นพร้อมระยะเวลาจำกัดในการตัดสินใจ หรือการรับประกันความพึงพอใจ รวมถึงนโยบายการรับคืนสินค้า เพื่อกระตุ้นให้การตัดสินใจซื้อเกิดขึ้นเร็วขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในการซื้อสินค้าออนไลน์
4.2 การติดตามผล
เพื่อการทำธุรกิจในระยะยาว การติดตามลูกค้าหลังการขายเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำหรือช่วยบอกต่อธุรกิจของคุณให้กับกลุ่มคนรอบข้าง การติดตามผลและรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงบริการและสร้างความประทับใจที่ยาวนาน ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างความภักดีของลูกค้า
5. การเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็น
5.1 การพูดหน้ากล้อง
ในการทำธุรกิจออนไลน์ เจ้าของธุรกิจอาจต้องเพิ่มทักษะในการนำเสนอ โดยเฉพาะการนำเสนอหน้ากล้อง เพื่อทำให้คอนเทนต์วิดีโอลื่นไหลและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เรียนรู้วิธีการพูดที่ดึงดูดใจและดูน่าเชื่อถือ อาจเริ่มต้นจากการพูดในลักษณะเหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง
5.2 การถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอ
ทักษะการถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอก็เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องเรียนรู้ ในช่วงเริ่มต้นคุณอาจจะยังมีทีมงานช่วยทำวิดีโอ เพราะยังอยู่ในช่วงลองผิดลองถูก หรือจำเป็นต้องประหยัดงบประมาณ ข่าวดีคือในปัจจุบัน อุปกรณ์การถ่ายวิดีโอมีคุณภาพสูง ใช้งานง่าย และราคาก็ไม่แพงมาก เจ้าของธุรกิจสามารถทำได้ง่ายด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น สมาร์ทโฟนและโปรแกรมตัดต่อฟรี เช่น CapCut
5.3 การบริหารงานคอนเทนต์
จัดตารางงานการผลิตคอนเทนต์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถผลิตเนื้อหาได้ต่อเนื่อง สิ่งสำคัญในข้อนี้คือความสม่ำเสมอในการนำเสนอคอนเทนต์ และการทำการตลาดในระยะยาว ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและรักษาความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน
สรุป: วิธีเริ่มทำธุรกิจออนไลน์
การทำธุรกิจออนไลน์ไม่มีคำว่าเริ่มช้าไป ทุกธุรกิจมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างไม่ยากเย็น เทียบเท่ากับธุรกิจขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญคือใครจะสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากกว่ากัน หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การลงมือทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
สิ่งที่สำคัญที่สุด:
เริ่มต้นทันที อย่ากลัวที่จะล้มเหลวในครั้งแรก เพราะทุกความผิดพลาดคือโอกาสในการเรียนรู้ และการเริ่มต้นวันนี้อาจเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนแปลงอนาคตธุรกิจของคุณบนโลกออนไลน์
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: contact@smejump.com
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ