ข้อมูลคือพลังสำหรับ การตลาดปี 2025

การตลาดปี 2025 เมื่อข้อมูลกลายเป็นอาวุธลับของธุรกิจ

การตลาดปี 2025: เมื่อข้อมูลกลายเป็นอาวุธลับของธุรกิจ

SMEJump ผู้เชี่ยวชาญรับทำการตลาดออนไลน์ที่ทำงานร่วมกับหลายธุรกิจ การเตรียมความพร้อมเพื่อเผชิญกับปี 2025 ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่นักการตลาดและผู้ประกอบการทุกคนควรให้ความสนใจ การใช้ข้อมูลในการวางแผนกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถคาดการณ์แนวโน้มตลาดและทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ธุรกิจของคุณก้าวขึ้นเป็นผู้นำท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด

เนื่องจาก เรามีแหล่งข้อมูลมากมาย เช่น ข้อมูลจากการขาย สื่อออนไลน์ หรือแม้แต่เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจ SME หลายแห่งยังคงใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์การตลาดอย่างไม่เต็มที่ อาจเนื่องมาจากการขาดกระบวนการเก็บข้อมูลที่ดีพอหรือการขาดความเข้าใจในประโยชน์ของข้อมูลเหล่านี้ ธุรกิจที่สามารถวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ย่อมมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน เพราะการตัดสินใจทางธุรกิจไม่ใช่แค่การคาดเดาอีกต่อไป แต่เป็นการใช้ข้อมูลที่แม่นยำในการสร้างโอกาสใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น การสร้างระบบการเก็บข้อมูลที่เหมาะสมและการใช้เครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลในการวางแผนและสร้างกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของข้อมูลที่สำคัญใน การตลาดปี 2025

1. ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ (Demographic Data)
ข้อมูลประชากรศาสตร์จะบอกถึงลักษณะทั่วไปของกลุ่มลูกค้า เช่น อายุ เพศ รายได้ และอาชีพ การเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจระบุกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน และวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับลูกค้า การใช้ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ทำให้สามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุดยิ่งขึ้น หากคุณกำลังยิงแอดบน Facebook ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) ในการยิงแอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถปรับให้เข้ากับกลุ่มที่มีโอกาสสนใจสินค้าหรือบริการของคุณได้ดีที่สุด

2. ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค (Behavioral Data)
การรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมช่วยให้ธุรกิจเห็นว่าผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างไร เช่น การเยี่ยมชมเว็บไซต์ ความถี่ในการซื้อสินค้า และวิธีการเลือกซื้อสินค้า ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำการตลาดสมัยใหม่ เพราะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าในเชิงลึก เช่น ด้านความคิด รสนิยม และปัญหาที่ลูกค้าประสบ ทำให้สามารถวางแผนกลยุทธ์และโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น เราจะเน้นไปที่พฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรและมีความสนใจในเรื่องใด ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า

3. ข้อมูลการตลาดและการขาย (Sales and Marketing Data)
ข้อมูลการตลาดช่วยวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ของกลยุทธ์ที่เคยใช้ เช่น การโปรโมชันใดที่ได้ผลดีที่สุด ยอดขายเพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วงเวลาใด ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำการตลาดสมัยใหม่ เพราะทำให้เราเห็นสถานะของกิจกรรมการตลาดทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแผนกลยุทธ์เพื่อการตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเก็บข้อมูลการขายและการวิเคราะห์เป็นประจำจะช่วยให้สามารถติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงแผนงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด

4. ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย (Social Media and Interaction Data)
การวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียช่วยให้เข้าใจถึงความรู้สึกและความคิดเห็นของลูกค้าแบบเรียลไทม์ เช่น การรีวิว การคอมเมนต์ และการแชร์เกี่ยวกับแบรนด์ ข้อมูลนี้เป็นช่องทางที่ดีในการวัดผลความคิดเห็นและ feedback ของลูกค้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของสินค้า กระบวนการทำงาน การให้บริการ และบริการหลังการขายได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ลูกค้าโพสต์โดยตรงจากสิ่งที่พวกเขารู้สึกหรือประสบการณ์ที่ได้รับ ข้อมูลนี้จึงมีความสำคัญเพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ข้อมูลจาก IoT และเทคโนโลยีสวมใส่ (Wearables)
เทคโนโลยี IoT และอุปกรณ์สวมใส่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เช่น การออกกำลังกาย การเดินทาง และการนอนหลับ ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลประเภทนี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจ เนื่องจากขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และลักษณะเฉพาะของแต่ละธุรกิจ แต่อาจเป็นแรงกระตุ้นให้ธุรกิจหลายแห่งเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเก็บข้อมูล เพื่อให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการเก็บข้อมูลในรูปแบบเดิมที่เคยทำมา

การวิเคราะห์ข้อมูล การตลาดปี 2025

เมื่อธุรกิจมีข้อมูลอยู่ในมือ ขั้นตอนถัดไปคือการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

1. ปัจจุบัน การเข้าถึง AI และโมเดล Machine Learning ทำได้ง่ายขึ้นและมีต้นทุนที่ถูกลง โดยมีการให้บริการโมเดลเหล่านี้บนอินเทอร์เน็ตในรูปแบบของ “จ่ายเมื่อต้องการใช้”(Pay as you go) หนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญคือ AI และ Machine Learning ที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี AI สามารถทำให้การคาดการณ์แนวโน้มผู้บริโภคแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยการเรียนรู้จากข้อมูลที่มีและนำไปใช้สร้างกลยุทธ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

การตลาดปี 2025 เมื่อข้อมูลกลายเป็นอาวุธลับของธุรกิจ

สำหรับผู้ที่ต้องการใช้โมเดล Machine Learning ในการวิเคราะห์ข้อมูล ปัจจุบันมีผู้ให้บริการหลายรายที่เสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย เช่น Google Cloud AI Platform, Amazon SageMaker, และ Microsoft Azure Machine Learning ซึ่งทั้งหมดนี้ให้บริการแบบ Pay as you go ช่วยให้ธุรกิจสามารถเริ่มต้นใช้เทคโนโลยี Machine Learning ได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูง และยังสามารถปรับใช้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น

2. Big Data Analytics ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การใช้ Big Data Analytics ช่วยให้เห็นภาพรวมของข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมากได้ชัดเจนและลึกซึ้งขึ้น การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่จะช่วยให้ข้อมูลมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ธุรกิจสามารถใช้เครื่องมือที่ง่ายและไม่ซับซ้อน เช่น Google BigQuery, Microsoft Azure Synapse Analytics, และ Amazon Redshift ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้มีแพลตฟอร์มที่พร้อมใช้งาน และผู้ใช้สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก เพื่อให้สามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคสูง เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังช่วยในการตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ ทำให้การวางแผนและการกำหนดกลยุทธ์มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. เครื่องมือ CRM และ MarTech มีบทบาทสำคัญในการจัดการข้อมูลลูกค้าและการทำการตลาดแบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SME ที่กำลังเริ่มต้นพัฒนาการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารและทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลอัตโนมัติ การติดตามลูกค้า และการทำโฆษณา Retargeting

สิ่งเหล่านี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับธุรกิจ SME ที่มีความต้องการในการเก็บและใช้ข้อมูลเพื่อธุรกิจ เพื่อยกระดับความสามารรถการตลาดและการบริการของธุรกิจ ตัวอย่างของผู้ให้บริการที่เหมาะกับธุรกิจ SME ในงาน CRM และ MarTech ได้แก่ HubSpot, Zoho CRM, และ Salesforce Essentials ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีฟังก์ชันการตลาดอื่นที่สามารถขยายต่อยอดในระดับสูง ระบบเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ และรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมได้อย่างดีเยี่ยม

4. การวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis) เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่มีความสำคัญมากและเป็นวิธีการง่ายๆ ที่ธุรกิจสามารถใช้ในการวิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้าได้ โดยการวิเคราะห์ข้อความที่ลูกค้าแสดงความคิดเห็น เช่น การแชท คอมเมนต์ หรือการรีวิว Sentiment Analysis ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความรู้สึกเชิงบวกหรือเชิงลบของลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการและความรู้สึกของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นใช้ Sentiment Analysis สามารถใช้เครื่องมือ เช่น Google Cloud Natural Language API, IBM Watson Tone Analyzer, และ MonkeyLearn ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้อาจจะซับซ้อนในการใช้งาน แต่สำหรับธุรกิจที่ไม่ต้องการเริ่มต้นได้ทันที อาจจะลองศึกษาโมเดลสำเร็จรูปที่เหมาะสมกับความต้องการ

เทคโนโลยีที่ส่งผลต่อ การตลาดในปี 2025

หนึ่งในแนวโน้มสำคัญของปี 2025 คือการใช้ เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) เพื่อเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ และการให้บริการแบบ immersive AR เป็นเทคโนโลยีที่นำภาพดิจิทัลมาผสานเข้ากับโลกจริง ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นข้อมูลหรือภาพเสมือนจริงอยู่รอบตัว เช่น ในเกม Pokémon GO ส่วน VR เป็นการสร้างโลกเสมือนจริงที่ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้ผ่านอุปกรณ์เฉพาะ

การตลาดปี 2025 เมื่อข้อมูลกลายเป็นอาวุธลับของธุรกิจ

ตัวอย่างการใช้ VR ที่ธุรกิจได้นำมาใช้จริง เช่น Volvo ที่ให้ลูกค้าทดลองขับรถผ่าน VR โดยที่ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับรถเสมือนจริงได้จากที่บ้าน หรือ Marriott International ที่ใช้ VR เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวหรือสัมผัสบรรยากาศของโรงแรมล่วงหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกใช้บริการ การใช้ VR ในลักษณะนี้ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับของจริง เพิ่มความมั่นใจและความตื่นเต้นในการตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการ ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้ AR ที่ธุรกิจได้ใช้งานจริงแล้ว เช่น IKEA ที่เปิดตัวแอปพลิเคชัน IKEA Place ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AR ในการทดลองวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ หรือ Sephora ที่ใช้ AR ในแอปพลิเคชันของตนเพื่อให้ลูกค้าลองเครื่องสำอางผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนได้แบบเรียลไทม์ การใช้งาน AR เหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ ทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งมีความสนุกสนานและง่ายดายมากยิ่งขึ้น

การใช้ AR และ VR ในการตลาดช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมมากขึ้น และสามารถเห็นภาพเสมือนจริงของสินค้า ซึ่งทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น ธุรกิจที่สามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์จะได้รับความได้เปรียบในการแข่งขัน

สรุป: การตลาดปี 2025: เมื่อข้อมูลกลายเป็นอาวุธลับของธุรกิจ

การใช้และวิเคราะห์ข้อมูลเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำการตลาด โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ค่อยได้ทำสิ่งเหล่านี้ การเริ่มต้นเก็บข้อมูลและนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ จะช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขัน การใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ในการตลาดจะเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจในปี 2025 การรู้จักใช้ข้อมูลให้เป็นประโยชน์จะไม่เพียงช่วยให้เราทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด แต่ยังสามารถวางกลยุทธ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และช่วยให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาวได้

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

คุยกับเราทางไลน์

เพิ่มเพื่อน

ข้อมูลบริษัท

บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

Email: contact@smejump.com

Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

LINE : @smejump

จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ